เด็กรุ่นใหม่ไม่ง้องานประจำ หันทำธุรกิจ 1 ปี มีเงินซื้อบ้านหลังละ 5 ล้านกว่า


ธุรกิจนี้เกิดจากความชอบทั้ง 2 อย่างของเรา คือชอบใส่ “รองเท้าแตะ” มากๆ ชอบความสบายเวลาใส่ กับอีกอย่างหนึ่งคือ ชอบเปลี่ยน “เคสโทรศัพท์” บ่อยๆ เลยบอกคุณแม่ว่า อยากได้เคสโทรศัพท์ที่เป็น “รองเท้าแตะ”

แรงบันดาลใจในการทำธุรกิจ การลาออกจาก “งานประจำ” น่าจะเป็นทางเลือกอันดับท้ายๆ ที่มนุษย์เงินเดือนจะนึกถึง แต่สำหรับ จู๊ส ลฎาภา ยิ้มละมัย ถือได้ว่า เธอเป็นตัวอย่างของเด็กรุ่นใหม่ ที่อายุเพียง 26 ปี แถมยังมีดีกรีจบการศึกษาระดับปริญญาโท ที่เลือกเดินออกจากงานประจำ และ กล้า ที่จะเลือกทำ ธุรกิจ เพื่อสานความฝันของตัวเอง

จู๊ส ลฎาภา เปิดเผยกับทีมงานสมาร์ทเอสเอ็มอีว่า การทำธุรกิจเป็นความใฝฝันไว้ตั้งแต่ก่อนเรียนจบ โดยจบปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ จบปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัยรามคำแหง  ก็เริ่มเปิดบริษัทของตัวเองชื่อว่า TS Line Innovation ซึ่งเป็นธุรกิจออแกไนซ์ ต่อยอดจากธุรกิจของครอบครัวที่รับทำตรายางแบบต่างๆ แต่เป็นการนำสินค้าที่มี มาขยายให้โอกาสเปิดกว้างขึ้น เมื่อมีกำไรก็นำมาแบ่งให้ธุรกิจของที่บ้านตามรูปแบบของบริษัท ซึ่งยังเป็นธุรกิจที่ทำต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

จู๊ส-ลฎาภา ยิ้มละมัย เจ้าของแบรนด์ Jude Cade

น้องจู๊ส เล่าย้อนถึงที่มาที่ไปของแบรนด์ Jude Case ให้ทีมงานฟังว่า ธุรกิจเคสมือถือ จะเรียกว่าเป็นโอกาสที่เข้ามาโดยบังเอิญก็ว่าได้ ซึ่ง ก่อนจะทำตามธุรกิจส่วนตัวตามที่ตั้งใจไว้ เราต้องทำสิ่งที่ทางบ้านขอไว้ คือให้ลองทำงานประจำดูก่อน 1 ปี ค่อยมาดูกันอีกทีว่าแบบไหนเหมาะสม จึงตัดสินใจสอบเข้าทำงานที่ธนาคารแห่งหนึ่ง ปรากฎว่าสอบผ่าน ก็เลยทำงานประจำจนครบกำหนด 1 ปี จากนั้นจึงไม่รอช้าที่จะก้าวออกมาสู่โลกของก่ารทำธุรกิจอย่างเต็มตัว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ที่บอกว่าเป็นความบังเอิญ เพราะธุรกิจนี้เกิดจากความชอบทั้ง 2 อย่างของเรา คือชอบใส่ “รองเท้าแตะ” มากๆ ชอบความสบายเวลาใส่ กับอีกอย่างหนึ่งคือ ชอบเปลี่ยน “เคสโทรศัพท์” บ่อยๆ เลยบอกคุณแม่ว่า อยากได้เคสโทรศัพท์ที่เป็น “รองเท้าแตะ” แรกๆ คุณแม่ก็งงว่าจะทำได้ยังไง แต่เราก็อ้อนจนคุณแม่ยอมทำให้  โดยเอารองเท้าแตะของเราจริงๆ มาตัด/แต่ง เป็นงานแฮนด์เมด ทำด้วยมือ จนได้เคสโทรศัพท์ชิ้นเดียวในโลกแบบไม่ซ้ำใคร….สมใจเลย”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“พอเราเอาไปใช้ ก็มีคนเข้ามาถามว่าสั่งที่ไหน ยังไง บางครั้งเอารูปมาโพสต์ลงในไอจีส่วนตัวก็มีคนมาสั่งออเดอร์ พอเริ่มได้รับความสนใจมากขึ้นก็เลยลองให้คุณพ่อติดต่อโรงงานที่เรามี Contact อยู่แล้ว โชคดีที่โรงงานเค้ายินดีทำให้ ความพิเศษ จู๊สว่ามันไม่ได้อยู่ที่ Design อย่างเดียว แต่มันสามารถตั้งวางได้ ใช้สะดวก วัสดุเราทนทาน ทำให้มีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง”

ครั้งแรกที่สั่งทำคือจำนวน 200 ชิ้น ได้รับการตอบรับดี แต่ก็ยังขายไม่หมดในทีเดียว เราก็เริ่มเอามาโพสต์ขายใน Facebook กับ Instagram เพื่อกระจายสินค้า จากนั้นก็เริ่มบูมขึ้นมา มีคนแชร์ไปตามเพจต่างๆ จน AD Facebook ไปถึงประเทศลาว คนที่ลาวเค้าก็โทรมาติดต่อขอรับเราสินค้าไปขาย คนไทยที่อยู่ในประเทศเกาหลีเค้าเห็นสินค้าก็ติดต่อมา จนตอนนี้เรากลายเป็นผู้ผลิต แล้วก็มีตัวแทนจำหน่ายแบบที่เราไม่ต้องขายเอง

Key Success ของจู๊ส คือ ถ้าเรามีโอกาส ต้องรีบคว้าไว้ก่อน เมื่อได้ทำแล้วก็ต้องทำให้ต่อเนื่องจึงจะสำเร็จ….

“สำหรับแผนการตลาดของ  JUDE Case ตอนนี้ถ้าในระยะใกล้ๆ นี้เรามีแผนจะทำรองเท้าแตะที่เป็นดีไซน์แบบอื่น ส่วนในระยะยาวเราอาจจะทำเคสมือถือในรูปแบบที่แปลกๆ ไม่เหมือนใคร (ขออุบไว้ก่อน) อย่าลืมติดตามกันค่ะ”

และนี่คืออีกหนึ่งตัวอย่างของเด็กรุ่นใหม่ ที่ไม่กลัวการเริ่มต้น แต่กลัวที่จะไม่มีโอกาสให้ลองทำ เมื่อทำจนสำเร็จก็คิดต่อยอดไปเรื่อยๆ แบบไม่ให้หลุดมือ เป็นอีกหนึ่ง SME ตัวเล็กๆ ที่ไอเดีย ความคิด และความสามารถของเธอ ไม่เล็กเลยทีเดียว…..

ที่มา : https://www.smartsme.tv/content/68877