จากโค้ชอ๊อดถึงลูกศิษย์! อาจเป็นการรวมตัวครั้งสุดท้ายในนามทีมชาติ

วันที่ 16 พ.ค. 64 “โค้ชอ๊อด” เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ได้เขียนความรู้สึกเกี่ยวกับสถานการณ์ของทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ที่ต้องรวมตัวเฉพาะกิจไปแข่งขันเนชันส์ ลีก 2021 ประเทศอิตาลี รหะว่างวันที่ 25 พฤษภาคม ถึง 25 มิถุนายน โดยมีศิษย์เก่า 6 เซียน อรอุมา สิทธิรักษ์, นุศรา ต้อมคำ, ปลื้มจิตร์ ถินขาว, มลิกา กันทอง, วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์, อำพร หญ้าผา ร่วมทีม โดยโค้ชอ๊อดได้โพสใน Facebook ส่วนตัว โดยระบุว่า

เช้าวันสดใส ที่ 16/5/64
ตื่นนอนมาลืมตาก็คิดและนึก ถึงลูกศิษย์… อยากจะบอกพวกเค้า… เลยมาบอกคนทั้งโลกด้วยเลยครับ….
ถึงศิษย์รักทุกคน
วันนี้ได้มาเขียนเรื่องราวนี้ จากก้นบึ้งของความรู้สึกและความรักความผูกพัน ที่มีต่อกันตลอดเวลาร่วมยี่สิบปี ครูขอขอบใจที่พวกเรามาก และภาคภูมิใจในตัวพวกเราทุกคนมาก ที่ได้ร่วมกัน ทำในสิ่งนี้ด้วยกัน ภายใต้สถานะการณ์ที่ยากลำบากที่สุด พวกเราได้แสดงให้เห็นว่า พวกเราสามารถหาทางออกให้กับประเทศ และสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติรวมทั้งประเทศอิตาลี่ ทำให้การขับเคลื่อนด้านการกีฬาของโลกเดินหน้าต่อไปได้ อุตสาหกรรมกีฬาและการถ่ายทอดสดทางการแข่งขันในระดับโลกนี้นั้นสามารถขับเคลื่อนไปสู่สายตาคนทั้งโลกได้ ภายใต้สถานะการณ์ที่ยากบำลากที่สุดที่ไม่เคยมีมาก่อน และไม่เคยมีใครในประเทศไทยทำสิ่งนี้มาก่อน และมันจะเป็นความทรงจำที่ดีที่สุดของพวกเราและผู้ชม

สิ่งหนึ่งที่มันกำลังจะเกิดขึ้นนี้ มันจะเป็นภาพความทรงจำที่เป็นประวัติศาสตร์ให้แก่ แฟนๆวอลเลย์บอลทั้งโลกและพี่น้องประชาชนชาวไทยรวมทั้งแฟนๆกีฬาวอลเลย์บอลชาวไทย ได้เห็นการแสดงขีดความสามารถด้านการกีฬาวอลเลย์บอลที่พวกเรามีในฐานะตัวแทนทีมชาติไทย และคนไทยตัวเล็กๆ ที่ร่วมกันสร้างปรากฏการณ์ใหม่ๆ ตื่นตาตื่นใจ สร้างรอยยิ้ม สร้างแรงบันดาลใจ สร้างความประทับใจ สร้างแบบอย่างที่ดีของสปิริตการเล่นกีฬา แสดงให้เห็นหัวใจสำคัญและปรัชญาของการเล่นกีฬา ผ่านการแสดงศักยภาพ ทักษะ เทคนิค ยุทธวิธี ที่มีเอกลักษณ์ ของพวกเรารอยยิ้มของพวกเราในการแข่งขันกีฬามันแสดงให้เห็นถึงความสุขของการได้เล่นกีฬาที่พวกเรารัก สายตาความมุ่งมั่นที่จะพยายามทำความสำเร็จของแต่ละทักษะการเล่น มันแสดงให้เห็นถึงความเพียรพยายามมุ่งมั่นไปสู่ระดับสูงสุดของโลก ความมีน้ำใจให้อภัยซึ่งกันและกัน ให้กำลังใจกันในขณะที่แข่งขัน มันแสดงให้เห็นถึงสปิริตและจิตวิญญานของความเป็นคนที่มีจิตใจดีงาม การร่วมแรงร่วมใจที่จะพยายามเอาชนะด้วยกัน มันแสดงให้เห็นถึงความรักและความสามัคคี ที่พวกเรามีขีดความสามารถสูงในการทำงานเป็นทีม ความคิดสร้างสรรค์และพลิกแพลงเทคนิคการเล่นกีฬา มันแสดงให้เห็นถึง การมีอิสระในการเล่นกีฬาและมีความคิดสร้างสรรค์มีจินตนาการ สร้างความตื่นตาตื่นใจและสนุกสนานไปกับมันทำให้เกมกีฬามีสีสรรค์มีรสชาติของความตื่นเต้นเร้าใจ การที่พวกเรามีสิติมีสมาธิที่ดี ฟังโค้ชแก้ไขแนะนำ ในขณะที่สถานะการณ์คับขันในการแข่งขัน มันทำให้เห็นถึงสภาวะจิตของพวกเราที่รู้ตัวรู้ตน และกำลังสร้างปัญญา ในการแก้ไขสถานะการณ์ เฉพาะหน้าให้ดีขึ้น ทุกๆครั้ง การยอมรับคำตัดสินและเคารพในกติการวมทั้งให้เกียรติผู้ฝึกสอนและคู่แข่งขันทั้ทุกทีม มันแสดงให้เห็นการมีมารยาททีดีในสังคมและการมีอารยะธรรมของคนในประเทศไทย

ตลอดระยะเวลของเส้นทางการเดินทางของพวกเราที่เลือกเส้นทางการใช้ชีวิต บนถนนสายวอลเลย์บอลนี้ มันแสดงให้เห็นถึง เส้นทางของความฝัน ความมุ่งมั่น ความสำเร็จ ที่พวกเราได้ขีดเขียนมันลงไป ด้วยจิตที่มั่นคง การมีความสนใจในกีฬาวอลเลย์บอลในวัยเด็กของพวกเรา ได้เรียนรู้จนเกิดความรักจากครูทุกคนที่สอนเรามารวมทั้งเพื่อนๆคู่แข่งขันพวกเราทุกคน โค้ช ผู้ตัดสิน แฟนๆกีฬา รวมทั้งครอบครัวเราเพื่อนเราทุกคน ได้มีส่วนในการทำให้เรารักในกีฬานี้มากขึ้นไปจนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา และความมุ่งมั่นที่จะไปให้สุดของความฝันของพวกเรานั้น มันได้สร้างพลังให้กับคนรอบข้างมากมายรวมทั้งคนรุ่นใหม่ที่อยากจะก้าวเดินตามพวกเราไปด้วย ทุกเส้นทางเดินของพวกเราที่เลือกไปเรียนรู้ในระดับอาชีพหลายประเทศในโลกนี้ ได้สร้างรอยยิ้ม ความประทับใจแก่ทุกคนที่มาสัมผัสกับพวกเรา สร้างความสำเร็จให้แก่ทุกทีมทุกประเทศที่ไปร่วงาน จนเกิดความรัก ศรัทธา เชื่อมั่นในคนไทยและนักกีฬาไทยรุ่นต่อๆไป อีกทั้งยังถักทอความฝันของคนอีกมากมายในประเทศและในโลก

ในขณะที่เขียนบทความนี้ไป น้ำตาแห่งความภาคภูมิใจ ในฐานะที่เป็นครูเป็นโค้ชพวกเรามามันไหลนองอาบแก้ม ในเช้าวันนี้ ช่างมีความสุขยิ่งที่ได้เขียนถึงพวกเรา ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นมานานมาก มันทำให้ครูคิดย้อนหลังไปหลายเรื่องราวตลอดเวลาที่พวกเราได้ใช้ชีวิตร่วมกันร่วม 16-20 ปี ความรักความผูกพันที่พวกเรามีให้กันนั้นมากยากที่จะอธิบาย ผ่านทุกข์ผ่านสุข หัวเราะร้องไห้ ขัดแย้ง ให้อภัย ยอมรับกันและกัน เคารพให้เกียรติกันและกัน ร่วมมือ ร่วมใจ ช่วยเหลือกัน ไม่ทอดทิ้งกันในยามยากลำบาก และที่สำคัญที่สุดในครั้งนี้คือครูไม่ได้ขอร้องหรือบังคับพวกเราเลย พวกเรามีจิตใจที่ดีงาม มีความเสียสละ มีความกล้าหาญ มีความเป็นผู้นำ มีสิปิริต กล้าตัดสินใจ ทำในสิ่งที่ถูกต้อง มันจึงเป็นความรู้สึกภาคภูมิใจที่น้ำตามันไหลออกมาไม่หยุดจนมองไม่เห็นแป้นพิมพิ์ และครูก็เชื่อมั่นเหลือเกินว่าหลายๆคนก็มีความรู้สึกนี้ รักและนับถือพวกเรา และครูเชื่อว่าพวกเราได้เดินเข้าไปสู่ในใจคนอีกมากมาย ในความทรงจำที่ดี

เหตุการณ์นี้มันจะเป็นภาพแห่งเกมระดับโลกระดับนานาชาติ ที่ทุกคนจะต้องจดจำ ว่าครั้งหนึ่งในโลกนี้ มีทีมชาติไทย คนไทยตัวเล็กนี้ ได้ร่วมสร้างสีสรรค์สร้างความสุข สร้างพลัง แรงบันดาลใจให้แก่เด็กๆเยาวชนไทยและแฟนๆวอลเลย์บอลในโลกนี้มายาวนาน เป็นกลุ่มคนที่แข่งกีฬา World Grand Prix ซึ่งปัจจุบันคือรายการ Volleyball Nation League ยาวนานที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมา 2002-2021 ประวัติศาสตร์นี้จะต้องจารึก มันอาจจะเป็นการรวมตัวครั้งสุดท้ายของพวกเราที่จะมาร่วมแข่งขันในนามทีมชาติไทย แต่ครั้งนี้มันพิเศษ ตรงที่ คนไทยและทั้งโลก ดีใจและยากชมและเชียรพวกเรา ในขณะที่พวกเราแข่งขัน มันจะมาร่วมสร้างรอยยิ้มและความสุขให้แก่คนไทยอีกครั้ง และที่สำคัญคือได้แสดงให้เห็นถึงหัวใจสำคัญของการเล่นกีฬาอย่างแท้จริง
ครูขอขอบใจและขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวงในโลกนี้ จงช่วยปกปักษ์รักษาคุ้มครองลูกๆของครูทุกคนในทีมทั้งคณะจงประสบแต่ความสุขความเจริญยิ่งๆขึ้นไป ขอให้เดินทางไปกลับด้วยความปลอดภัยและมีสุขภาพดีกันทุกคน… ขอให้โชคดี
รักเสมอ
อ.อ๊อต