เรื่องจริงที่ไม่เคยเปิดเผย มีมนุษย์ต่างดาวปะปนอยู่กับมนุษย์โลกมามากว่า 80 ปีมาแล้ว
เป็นคำถามที่พวกเราเฝ้าถามกันมาตลอดว่า “มนุษย์ต่างดาวมีจริงหรือไม่?” บางคนก็ไม่เชื่อ เพราะยังไม่เคยเห็นและยังพิสูจน์ไม่ได้ แต่บางคนก็เชื่อเพราะจักรวาลนี้มันกว้างใหญ่ไพศาลยิ่งนัก ซึ่งก็น่าจะมีสิ่งมีชีวิตที่มีภูมิปัญญาไม่น้อยกว่าชาวโลกอยู่บ้างแหละ แต่ทฤษฎีหลังนี้น่าจะมีแนวโน้มเป็นจริงมากขึ้น เมื่อมีแหล่งข่าวระดับสูงอ้างว่า
“มนุษย์ต่างดาวมีจริง และอยู่ปะปนกับมนุษย์โลกไม่ต่ำกว่า 80 ปีมาแล้ว”
สำนักข่าวท้องถิ่น เนวาด้าเดลี่เมล์ ได้รายงานเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ เมื่อนักข่าวคนหนึ่งได้รับการติดต่อจากชายไม่ทราบชื่อ ที่ไม่ยอมบอกว่าตนเองเป็นใครมาจากไหน และได้ขอนัดนักข่าวไปพูดคุยเป็นการส่วนตัวเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวที่อาศัยอยู่บนโลก ซึ่งการพูดคุยครั้งนี้ ชายคนดังกล่าวไม่ขอเปิดเผยชื่อ ห้ามบอกรูปลักษณ์ภายนอกของเขา และไม่ยินยอมให้อัดวีดีโอและอัดเสียงเพื่อบันทึกการสนทนาใดๆ ทั้งสิ้น
หลังจากได้พูดคุยกัน ชายคนดังกล่าว ซึ่งทางสำนักข่าวได้อ้างว่าเป็น “แหล่งข่าวระดับสูง” เคยทำงานอยู่ในแอเรีย 51 แต่ไม่ยอมบอกว่าทำตำแหน่งหน้าที่อะไร ได้เปิดเผยถึงข้อมูลที่ชาวโลกทุกคนสงสัย โดยมีข้อมูลที่สำคัญที่สรุปเอาไว้ได้ทั้งหมด 10 เรื่องดังนี้
แอเรีย 51
1. มนุษย์ต่างดาวมีอยู่จริง และอาศัยอยู่บนโลกมนุษย์เรามานานกว่า 80 ปี
2. มนุษย์ไม่ได้เป็นผู้ค้นพบพวกเขา แต่พวกเขาติดต่อเรามาเอง
3. ช่วงเวลาที่ติดต่อมาคือ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือปี ค.ศ. 1946
4. หน้าตาของมนุษย์ต่างดาวเหมือนกับคนปกติ !! โดยพวกเขาอ้างว่า จริงๆ แล้วรูปลักษณ์ภายนอกปกติของพวกเขาไม่ได้เป็นแบบคนทั่วไป แต่เขามีวิธีการทำให้ตัวเองมีรูปลักษณ์แบบคนทั่วไปได้ (ข้อมูลตรงนี้ค่อนข้างเหลือเชื่อและขัดกับสิ่งที่เราเข้าใจมาโดยตลอดว่ามนุษย์ต่างดาวจะต้องตัวเล็ก หัวโต มีตาใหญ่ๆ เหมือนเอเลี่ยน)
5. พวกเขาติดต่อผ่านนายทหารระดับสูงของอเมริกาท่านหนึ่ง และหลังจากนั้นนายทหารท่านนั้นก็พาไปพบกับประธานาธิปดีสหรัฐในขณะนั้น (แฟรงคลิน ดี รูสเวลท์)
ภาพมนุษย์ต่างดาวจับมือกับนายทหารท่านหนึ่ง ไม่ทราบแหล่งที่มา แต่คาดเดาว่าไม่ใช่ภาพเหตุการณ์ที่ชายดังกล่าวพูดถึง
6. ประเด็นที่เข้าพบคือเรื่องของสันติภาพของโลกในอนาคต สาเหตุจากสงครามโลกครั้งที่ 2 (ประเด็นการคุยเรื่องสันติภาจบแค่นี้ เพราะแหล่งข่าวไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า มนุษย์ต่างดาวมาเพื่อให้คำแนะนำหรือมาเพื่อบอกอะไรเราอีก)
7. จริงๆ แล้วมนุษย์ต่างดาวยังมีอีกหลายเผ่าพันธุ์ แต่พวกเขาเป็นเผ่าพันธุ์ที่อาศัยอยู่ใกล้กับโลกมากที่สุดและมีสิ่งแวดล้อม แรงดึงดูด เวลาโคจรของดวงดาวใกล้เคียงกันมากที่สุด ส่วนเผ่าพันธุ์อื่นจะอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างจะโลกค่อนข้างมากและอยู่ไกลเกินกว่าจะมาถึงโลกได้บ่อยๆ แต่ก็มีแวะเวียนมาบ้าง
8. ส่วนเผ่าพันธุ์ของพวกเขาเพิ่งย้ายมาอยู่บนโลกมนุษย์อย่างเป็นทางการเมื่อ 10 มาแล้ว (10 ปีก่อนปี ค.ศ. 1946 ก็คือปี ค.ศ 1936)
9. พวกเขาย้ายมาอยู่บนมนุษย์โลกหลายสิบชีวิต แต่ละชีวิตกระจัดกระจายไปอยู่ตามที่ต่างๆ บนโลก เป็นชนกลุ่มแรกของดาวเขาที่ทดลองย้ายเข้ามาอยู่เพื่อเรียนรู้และทดลองการใช้ชีวิต (นักวิทยาศาสตร์ในแอเรีย 51 และทีมงานหลายคนคาดเดาว่า อาจเป็นเพราะดาวของพวกเขาประสบปัญหาบางอย่าง และต้องการหาที่อยู่ใหม่)
10. พวกเขาเป็นมิตรกับมนุษย์แน่นอน หลังจากสงครามโลก จนถึงปัจจุบัน (2014) พวกเขาติดต่อกับพวกเรามาหลายต่อหลายครั้งแล้ว ส่วนใหญ่เป็นในการศึกษาและเรียนรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ และปัจจุบันก็มีพวกเขากว่า 100 ชีวิตอาศัยอยู่บนโลกใบนี้ โดยที่เราไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ
สำหรับข้อมูลการให้สัมภาษณ์ก็ถูกสรุปไว้เพียงคร่าวๆ เท่านี้ ส่วนคำถามสุดท้ายที่นักข่าวถามกับแหล่งข่าวไปก็คือ “ทำไมคุณถึงมาบอกข้อมูลนี้กับผม?” แหล่งข่าวบอกสั้นๆ แต่เพียงว่า “ถือว่าเป็นของขวัญวันคริสมาสต์สำหรับผมก็แล้วกัน ผมว่ามันถึงเวลาที่ทุกคนควรได้รู้ความจริงเสียที เพราะอีกไม่นานทุกคนก็จะต้องรู้ความจริงนี้อยู่แล้ว และที่สำคัญ ตอนนี้ผมไม่มีอะไรข้องเกี่ยวกับที่นั่นอีกแล้ว” ชายคนดังกล่าวได้ทิ้งปริศนาเอาไว้
ซึ่งหลังจากที่ข้อมูลดังกล่าวถูกเผยแพร่ลงในเว็บไซต์เพียงไม่ถึง 2 วัน ก็ได้ถูกลบทิ้งไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับมีคำชี้แจงสั้นๆ ว่าเป็นการเข้าใจผิดของสำนักพิมพ์และต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย จึงเป็นที่น่าสงสัยว่า จริงๆ แล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องเข้าใจผิดจริงๆ หรือว่ามันเป็นเรื่องจริงที่รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องการปกปิดเอาไว้หรือไม่ ? แล้วคุณล่ะ อาจแล้วเชื่อหรือไม่ว่า มนุษย์ต่างดาวมีจริงและอาศัยอยู่บนโลกใบนี้กับเราด้วย !
ที่มา : petmaya.com/ , nevadadailymail
เรียบเรียง: http://allmysteryworld.blogspot.com/2015/02/alien-live-on-earh-80-years.html#ixzz4gauakdiX
เหลือเชื่อ! พบศพ 7,000 รายที่ใต้ดินของอดีตโรงพยาบาลบ้าในอเมริกา
ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า พบศพมนุษย์ 7,000 รายที่ใต้ดินของคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมิสซิสซิปปี เนื่องจากแต่ก่อนวิทยาเขตแห่งนี้เคยเป็นโรงพยาบาลประสาทมาก่อน
รายงานระบุว่า ใต้ดินของวิทยาเขตกว้าง 8 หมื่นตารางเมตรนี้เต็มไปด้วยโลงศพ หากว่าขุดขึ้นและทำพิธีฝังศพใหม่ต้องใช้เงินมูลค่าทั้งหมด 21 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 729 ล้านบาท) ในปัจจุบัน เจ้าหน้าที่กำลังหาวิธีที่สะดวกและถูกมากขึ้น โดยคาดว่าในอีก 8 ปีจึงจัดการหมด
สุสานที่ถูกลืมแห่งนี้มีประวัติศาสตร์มายาวนานตั้งแต่ปี 1855 ซึ่งในขณะนั้นโรงพยาบาลประสาทของมิสซิสซิปปีถูกก่อตั้งขึ้นในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เนื่องจากก่อนหน้านั้น ผู้ป่วยทางจิตจะถูกขังไว้ในคุกหรือตึกอย่างโดดเดี่ยว ให้อยู่ไกลห่างจากผู้คน
ถึงแม้ว่าโรงพยาบาลประสาทแห่งนี้จะพยายามพัฒนาปรับปรุงให้ดีขึ้นแล้ว แต่ชีวิตที่นั่นก็ยังเต็มไปด้วยความโหดร้ายอยู่ โดยในช่วงปี 1877 มีผู้ป่วยทางจิตเสียชีวิตมากถึง 1,376 ราย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 5 ของผู้ป่วยทางจิตทั้งหมด ช่วงที่มีผู้ป่วยทางจิตมากที่สุดของโรงพยาบาลอยู่ที่ 6,000 ราย จนกระทั่งปี 1935 โรงพยาบาลประสาทจึงย้ายไปที่แห่งใหม่ และแห่งเก่าก็กลายเป็นสถานที่ที่ถูกลืมเลือนไปในที่สุด
ที่มา China Xinhua News
เอสซีจี เมืองทองฯ ขาด 4 แข้งตัวหลักเยือน”คาชิมา แอนท์เลอร์ส”
การเเข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก นัดสุดท้าย ระหว่าง เอสซีจี เมืองทอง พบ คาชิมา แอนท์เลอร์ส ซึ่งนัดนี้ต้องไปเยือนถึงเเดนซามูไร เอสซีจี เมืองทองเพิ่งเดินทางถึงประเทศญี่ปุ่น เพื่อทำศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2017 กลุ่ม อี นัดสุดท้ายกับ คาชิมา แอนท์เลอร์ส โดยการเดินทางครั้งนี้ เซลิโอ ซานโตส ปราการหลังชาวบราซิลไม่ได้มาด้วย เนื่องจากเกิดอาการเป็นไข้ รวมถึงนักเตะตัวอย่าง ซิสโก้, ลี โฮ และ ทริสตอง โด ที่ติดโทษแบนในเกมนัดนี้
ธชตวัน ศรีปาน เฮดโค้ช “กิเลนผยอง” เผยหลังการฝึกซ้อมว่า “สำหรับการซ้อมวันแรก คงจะเน้นผ่อนคลาย และฟื้นฟูเป็นหลัก เนื่องจากเราเพิ่งผ่านเกมไทยลีกกับ ราชนาวี มา ส่วนการพบกับ คาชิม่าฯ ก็ถือเป็นงานหนักของเรา ซึ่งเราวางเป้าหมายต้องมีแต้มกลับไปให้ได้ ถึงแม้สภาพทีมจะมีผู้เล่นเจ็บ และติดโทษแบนทั้ง ซิสโก้, ลี โฮ และ ทริสต็อง โด ส่วนรายของ เซลิโอ ก็ไม่สบายไม่ได้เดินทางมากับทีม ก็หวังว่าผู้เล่นที่เหลืออยู่จะทดแทนกันได้ เชื่อว่าด้วยฟอร์มการเล่นที่ผ่านมา รวมถึงแท็กติกที่วางไว้ เราน่ามีโอกาสทำได้ตามเป้าหมายในนัดนี้”
ทั้งนี้ ศึกฟุตบอล เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2017 กลุ่ม อี นัดที่ 6 คาชิม่า แอนท์เลอร์ส เปิดบ้านพบ เมืองทอง ยูไนเต็ด วันพุธที่ 10 พฤษภาคม 2560 สนามคาชิม่า ซอคเกอร์ สเตเดี้ยม ประเทศญี่ปุ่น แข่งขันเวลา 17.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) โดยผลการแข่งขันนัดแรกที่พบกัน ปรากฎว่า “กิเลนผยอง” เฉือนชนะ 2-1 จากประตูชัยของ ซิสโก้ ฆิเมเนซ
ทางโค้ชญี่ปุ่น “มาซาทาดะ อิชิอิ” ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า
“แม้ทีมเราและเมืองทองจะผ่านเข้ารอบแล้ว แต่เกมนี้เรายังคงมุ่งมั่นเต็มที่ เพราะเล่นในบ้านต่อหน้าแฟนบอลของเรา และเราต้องการชนะเพื่อเป็นที่ 1 ของสาย
ส่วนตัวแล้วผมไม่ได้ให้ลูกทีมจับตานักเตะเมืองทองคนไหนเป็นพิเศษ เพราะเมืองทองเป็นทีมที่แข็งแกร่งและเล่นกันเป็นทีม และพวกเราก็ได้เล่นกับพวกเค้ามาแล้ว”
เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์ กล่าว
ชนาธิป สรงกระสินธ์ ” ทุกคนมีอาการล้าจากเกมการแข่งขันที่ถี่ และจากการเดินทางแต่เราคือตัวแทนสโมสรจากไทย เราต้องสู้เพื่อมีแต้มในเกมวันพรุ่งนี้ให้ได้ครับ ”
ธชตะวัน ศรีปานเฮดโค้ชเมืองทอง ยูไนเต็ด กล่าวกับผู้สื่อข่าว
“เป็นเกมที่ยากมากของเรา เพราะเราขาดผู้เล่นตัวหลักที่ติดโทษแบนถึง 3 คน (โด, ซิสโก้ และอีโฮ)และเมื่อวานตัวหลักอีกคนอย่างเซลิโอก็เป็นไข้เดินทางมาไม่ได้ รวมถึงตัวหลักอีก 2 คนที่บาดเจ็บก่อนหน้านี้ (อดิศักดิ์และสารัช)
และการมาเยือนก็นับว่าเป็นงานยากอยู่แล้ว แต่เราก็อาจชนะพวกเขาได้ถ้าเราเล่นด้วยความมีวินัยเหมือนนัดแรกที่เราเล่นอย่างอดทนและชนะพวกเขาได้”
ขอบคุณข้อมูลข่าวบางส่วนจาก: https://sport.mthai.com/football-thai/307784.html
SBOBETSH
สมัครเว็บบอล การเงินและบริการดีที่สุดในโลก บริหารงานโดยเฮียตังค์
www.sbobetsh.com/tst
– สมัครสมาชิกใหม่รับโบนัส 20%
– ฝาก-ถอน 5 นาที ไม่จำกัดรอบ ถอนเงินสูงสุดวันละ 1 ล้าน
ทีเด็ดเฮียตังค์บิลล้าน 1 เดือน 20 ล้าน
https://www.facebook.com/groups/sbobet.sh/
แอดเลย!!! LINE @heartang (ใส่@ข้างหน้าด้วย)
หรือคลิก http://line.me/ti/p/@heartang
จิตใจทำด้วยอะไร! หนูน้อย 7ขวบ โดนข่มขืน ต้องทานยาต้านไวรัส
กลายเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่สร้างความหดหู่ใจที่ชาวโลกออนไลน์ต่างให้ความสนใจ และพร้อมใจกันช่วยเหลือ โดยเป็นเรื่องราวซึ่งเกิดขึ้นกับเด็กหญิงวัยเพียงแค่ 7 ขวบ ซึ่งเฟซบุ๊กแฟนเพจ “แหม่มโพธิ์ดำ” ได้นำมาเผยแพร่ ทั้งนี้เรื่องราวได้รับการบอกเล่าจากแม่รายหนึ่ง ที่ต้องทนเห็นลูกสาววัย 7 ขวบ ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ถูกล่วงละเมิดทางเพศ อีกทั้งยังต้องกินยาต้านไวรัสเพื่อความปลอดภัย จนมีผลข้างเคียงคือเวียนหัว ปวดท้อง คลื่นไส้ โดยแม่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ได้ทำงาน ไม่มีรายได้ด้วย
ทั้งนี้ ข้อความดังกล่าวถูกระบุเอาไว้ว่า…#อังคารสองทุ่มตรงขายพวงกุญแจ50เสื้อ50 #เยียวยาครอบครัวเด็กถูกกระทำอนาจาร #ให้พวกเขามีเงินทุนย้ายออกจากชุมชนเดิมไปเริ่มต้นใหม่ สวัสดีค่ะ ควีน เมื่อวันที่ 30 เมษายน ลูกสาวถูกล่วงละเมิดทางเพศ และได้ขอความช่วยเหลือไปยังเพจแหม่มโพธิ์ดำ ซึ่งทางเพจได้ส่งพี่เต้ เตชะเข้ามาให้คำแนะนำช่วยเหลือ ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของคดี แต่ยังไม่สามารถออกหมายจับคนร้ายได้ เนื่องจากหลักฐานน้อยเหลือเกิน เพราะผู้เสียหายเป็นเด็ก 7 ขวบ เมื่อเป็นเด็กจึงไม่รู้อะไรมากนักหลักฐานจึงน้อย ผลกระทบหลังจากเหตุการณ์ยังมีมาเรื่อยๆ น้องมีพฤติกรรมเลียนแบบ และหมกมุ่นในสิ่งที่โดนกระทำมา แม่จึงใช้เวลาในการหากิจกรรมให้ลูกทำ แต่ในขณะเดียวกันแม่ก็ไม่ได้ทำงาน เพราะต้องคอยดูลูก ดูแลเรื่องยาที่น้องกินอยู่ ซึ่งมีผลข้างเคียงเยอะมาก น้องต้องทานยาต้านไวรัสเพื่อความปลอดภัยของน้อง ทำให้น้องมีอาการเวียนหัวปวดท้องและคลื่นไส้แม่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
แต่แม่มีความทุกข์ใจที่ต้องอยู่ในสถานที่เดิมๆ ตื่นมาเปิดหน้าต่างเจอบ้านหลังเกิดเหตุ และน้องก็จดจำว่าเขาทำหนูบนนี้ บนบ้านหลังนี้ แม่จึงคิดว่าอยากย้ายออกไปอยู่ข้างนอกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ หลังจากคดีจบ แต่แม่ไม่มีเงินทุนที่จะสามารถออกไปได้ดั่งใจคิดจึงต้องทนอยู่ แม่มีความฝันแต่ทำไม่ได้ เพราะทุกวันนี้แม่ก็ไม่มีรายได้ เพราะต้องดูแลน้อง แม่จึงอยากขอความช่วยเหลืออยากขอเงินทุน ให้ควีนช่วยเหลือให้แม่ได้ไปให้พ้นจากจุดนี้ ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ไม่มีใครรู้จัก ไม่รู้ว่าเราโดนอะไรมา ที่จะได้พบเจอเพื่อนใหม่ ที่ไม่มีใครรู้ว่าเขาเจอกับอะไรมา เพราะที่เกิดเหตุเป็นชุมชนเล็กๆ และเรียนโรงเรียนในชุมชน แม่จึงคิดว่าลำบากใจที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป
จึงอยากขอให้ควีนช่วยเงินทุนสักก้อนไม่ต้องเยอะมากมาย แต่ทำให้แม่สามารถออกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับลูกได้ ขอความเมตตาหากแม้นอยากทำบุญให้กับเด็กคนหนึ่งให้หลุดพ้นไปจากสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับเขา ให้เขาได้ลืม และไม่ต้องเห็นสถานที่เกิดเหตุให้เขานึกย้อนไปในสิ่งเดิมๆ ขอให้ผลบุญที่เมตตามาส่งผลให้ทุกท่านได้มีสิ่งดีๆ ในชีวิตเช่นกัน ขอความเมตตาด้วยนะคะ แม่ไม่ต้องการเยอะแค่พอที่จะไปเริ่มต้นใหม่ได้ค่ะ… เพราะแม่รู้โลกใบนี้ยังมีคนรอคอยความช่วยเหลืออีกมากมาย แม่ขอปาดน้ำตาแล้วลุกขึ้นสู้ ขอแค่โอกาสช่วยดึงแม่ขึ้นไปจากจุดนี้ด้วยนะคะ
เคสน้องวัย 7 ขวบถูกกระทำชำเรา ที่ควีนจะช่วยครอบครัวน้องด้วยการขายพวงกุญแจและเสื้อช่วยน้อง เริ่มต้นจากการที่แม่น้องติดต่อเพจมาด้วยความระทมทุกข์ ถึงความล่าช้าของผลตรวจร่างกาย และความชอกช้ำที่ต้องเห็นลูกสาวเสียสุขสภาพจิตหมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่เขาได้พบเจอมา(ลองดูภาพวาดที่น้องวาดวนไปวนมาซ้ำๆ)
แม่และเด็กจิตใจบอบช้ำมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น และร้องเรียนมาที่เพจ ควีนเลยรบกวนพี่เต้ เตชะ ทับทอง ที่มีความชำนาญเกี่ยวกับคดีเด็กและสตรีให้ไปพูดคุยและพบปะแม่ ซึ่งผ่านมาไม่กี่วัน พี่เต้ก็เดินเรื่องจนหมายจับออกแล้ว มีความคืบหน้ามากมายรายละเอียดตามนี้ ขอบคุณพี่เต้มากๆเลยค่ะ ส่วนคนที่อยากช่วยเหลือน้องและแม่ให้ย้ายออกจากที่เกิดเหตุ รอซื้อพวงกุญแจและเสื้อได้พรุ่งนี้สองทุ่มนะ
“วันนี้สืบพยานและสอบสวนเพิ่มเติม จากนั้นวันนี้พาน้องแบะแม่ไปพบอัยการอีกครั้ง เพื่อสอบสวนเพิ่มเติม และสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาเป็นที่เรียบร้อยครับ เมื่อ 16.00 น. ที่ผ่านมา
โดยรวมทั้งสิ้นเบื้องต้น 6 ข้อ ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิด ฐาน
1. ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดใด โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้
2. กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปีโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม
3. กระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โดยขู่เข็ญด้วยประการใดใดโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยเด็กนั้นอยู่ภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้
4. พาบุคคลอายุไม่เกิน 15 ปีไปเพื่อกระทำอนาจาร
5. หน่วงเหนี่ยว หรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย
6. พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้ดูแล โดยกระทำเพื่อการอนาจาร
โดยรวมแล้วถือเป็นความผิดที่มีโทษหลายปี และบางข้อหาถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิตเชียวละครับ หวังว่าจะเป็นบทเรียนให้ผู้ที่คิดจะเป็นคนเลว ต้องคิดเยอะหน่อยนะครับ ยังไงต้องขอบคุณผู้กอง เจ้าของคดี ที่ดูแลแม่และเด็กคู่นี้มาอย่างดีตั้งแต่ต้นครับ วันนี้ก็ช่วยรับและส่งเคสแม่ลูกเป็นอย่างดี”
ขอบคุณที่มา : เพจ แหม่มโพธิ์ดำ เเละ http://kinorza.com
มนุษย์กำลังจะได้เห็นรูปแรกของหลุมดำเร็วๆนี้ จากกล้องโทรทัศน์ขนาดเท่าโลก
นักดาราศาสตร์ได้ใช้กล้องโทรทัศน์ขนาดเท่าโลก จับภาพหลุมดำใจกลางกาแล็กซีของเราชัดจนถึงขอบฟ้าเหตุการณ์
เราได้ยินเรื่องหลุมดำมาเกือบร้อยปีแล้ว นับตั้งแต่ Albert Enstien เผยแพร่ทฤษฎีสัมพันธภาพของเขา
ซึ่งใช้ทำนายการมีอยู่ของหลุมดำ หนึ่งในวัตถุลึกลับปริศนาเกินสามัญสำนึกของเรา
และในปีนี้เราจะได้เห็นรูปแรกของมันกันแล้ว
หนึ่งในเรื่องน่าตื่นเต้นที่ผมแชร์ในเพจ ยังไม่เห็นคนลงในนี้เลยเอามาให้อ่านกันทั่ว ๆ ครับ
หนึ่งในเป้าหมายคือ ซาจิเทอเรียส เอ (Sgr A*) หลุมดำยักษ์ใจกลางทางช้างเผือกของเราเองซึ่งมีมวลประมาณ 4 ล้านเท่าของดวงอาทิตย์ ถือเป็นหลุมดำยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดบนท้องฟ้าที่เราสังเกตได้ประมาณกันว่าขนาดของฟ้าเหตุการณ์ของหลุมดำน่าจะขนาดเท่ากับระหว่างดาวพุธกับดวงอาทิตย์หรือ 46 ล้านกิโลเมตร
แต่ไม่ว่าจะใหญ่ขนาดไหนระยะทางที่ไกลทำให้การถ่ายภาพหลุมดำ ซาจิเทอเรียส เอ ให้ชัด เหมือนการพยายามถ่าย ส้ม 1 ลุกที่วางอยู่บนดวงจันทร์ เท่านั้น ในวงการกล้องโทรทัศน์ยิ่งอยากถ่ายภาพให้ไกลชัดเท่าไหร่ ยิ่งต้องมีกล้องใหญ่เท่านั้น และการจับภาพขนาดส้มที่วางบนดวงจันทร์ต้องใช้กล้องรับสัญญาณขนาดเท่ากับโลก!!! โครงการนี้จึงถือกำเนิดขึ้นมา
กล้องขนาดเท่าโลกที่ว่าเป็นกล้องโทรทัศน์เสมือนมีชื่อเรียกว่า The Event Horizon Telescope ซึ่งใช้เทคนิคพิเศษ (ชื่อ Very Long Baseline Interferometry เผื่อใครอยากไปค้นต่อ) โดยใช้กล้องโทรทัศน์บนโลกหลายตัวส่องไปยังจุดเล็ก ๆ จุดเดียวกันบนท้องฟ้า เพื่อเก็บภาพที่ละเอียดที่สุด โครงการนี้ได้ใช้กล้องถึงแปดตัวตั้งแต่ชิลี ฮาวาย แม็กซิโก ยุโรป ไปจนถึงขั้วโลกใต้ เพื่อสร้างกล้องเสมือนขนาดเท่าโลก สามารถจับภาพอวกาศรอบ ๆ หลุมดำได้ชัดเจนอย่างที่ไม่เคยทำกันมาก่อน
โครงการ The Event Horizon Telescope ที่ใช้กล้องทั่วโลก + โปรแกรมพิเศษจำลองเสมือนว่าเป็นกล้องเดียวกัน
หากทั้งโลกเป็นเหมือน Disco ball ที่มีเซ็นเซอร์รับแสงอยู่ทั่ว เราคงถ่ายภาพได้อย่างชัดเจน
แต่โลกไม่ใช่ Disco ball กล้องทั่วโลกที่จับภาพจึงเหมือนเป็น pixel เล็ก ๆ ของภาพใหญ่
และเนื่องจากโลกเราหมุนด้วย การเก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่องเหมือนการเปิดหน้ากล้องนาน ๆ
ฉะนั้นข้อมูลของภาพทั้งหมดได้จึงได้ประมาณนี้
ขั้นตอนต่อมาต้องสร้างภาพที่เหลือเหมือนต่อจิ๊กซอ
โดยใช้ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ประมวลผลจากข้อมูลมหาศาล
สุดท้ายด้วยอัลกอริทึมพิเศษ เราจะได้ภาพหลุมดำที่มีความเป็นไปได้ที่สุดออกมา
สิ่งที่กล้องพยายามจับคือแสงจากจานรอบ ๆ หลุมดำหรือ accretion disk ซึ่งอยู่รอบขอบฟ้าเหตุการณ์ เนื่องจากสิ่งที่อยู่เลยขอบฟ้าเหตุการณ์ไปนั้นไม่สามารถเห็นได้แล้ว เป็นบริเวณที่แม้แต่แสงก็ไม่สามารถหนีหลุดพ้นได้ ส่วนบริเวณจานรอบหลุมดำ คือโครงสร้างของวัตถุที่กำลังตกลงไปในหลุมดำ อาทิ ซากของเป็นดาวที่ถูกหลุมดำฉีกเมื่อมันเข้าใกล้ ฝุ่นก๊าซในนั้นบีบอัดชนกันปล่อยรังสีออกมาให้เราสามารถสังเกตการณ์ได้ เราจะได้เห็นแสงเรือง ๆ ของ accretion disk โดยมีหลุมดำมืดเป็นฉากหลัง
ภาพจำลองหนึ่งในผลที่เป็นไปได้จาก The Event Horizon Telescope
แล้วอีกนานเท่าไหร่หรอกว่าจะได้เห็น?
โครงการนี้ได้ดำเนินไปแล้วครับ ตั้งแต่วันที่ 5 เมษา และเก็บข้อมูลถึง 14 เมษาที่ผ่านมา ข้อมูลมหาศาลที่ได้ ถูกส่งไปประมวลผลด้วยซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ในสหรัฐและเยอรมัน คาดว่าน่าจะใช้เวลาซัก 2-3 เดือนในการประมวลผล
เป็นอีกเรื่องที่ติดตามไว้ได้เลยครับ ต่อไปหนังสือต่าง ๆ จะมีภาพหลุมดำของจริงให้ได้ศึกษากันแล้ว
———————
อยากอ่านเรื่องเกี่ยวกับอวกาศที่น่าสนใจอื่น ๆ ผมลงประจำสั้น ๆ ในเพจ
https://www.facebook.com/GalaxyExpressNews/
ที่มา: https://pantip.com/topic/36353800
ครม.ไฟเขียวปรับเพดานอัตราเงินเดือนทหาร-ตำรวจสูงสุด 76,800 บาท ลดเหลื่อมล้ำพลเรือน
ครม.ไฟเขียวปรับเพดานอัตราเงินเดือนทหาร-ตำรวจ ลดความเหลื่อมล้ำกับภาคพลเรือน ยศพลโทสูงสุด 76,800 บาท ยศพลตำรวจโทสูงสุด 75,560 บาท
เมื่อเวลา 13.10 น. วันที่ 22 มีนาคม ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบตามหลักเกณฑ์และวิธีการเยียวยาให้กับข้าราชการทหาร ตำรวจและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความเหลื่อมล้ำของอัตราเงินเดือน เนื่องจากที่ผ่านมามีการปรับเงินเดือนของข้าราชการพลเรือน ตามการเปรียบเทียบลำดับขั้นให้อยู่ในระดับเดียวกัน เช่น หากอัตราข้าราชการทหารในระดับ พ.อ.พิเศษ จะเทียบเท่าชั้นอำนวยการสูงของภาคพลเรือน เป็นต้น ทำให้ฐานเงินเดือนเท่ากัน แต่จากการปรับอัตราเงินเดือนของภาคพลเรือนครั้งก่อนทำให้ฐานเงินเดือนสูงสุดของฝ่ายพลเรือนมีอัตราที่สูงกว่าภาคข้าราชการทหาร ตำรวจ จึงมีการเสนอให้ลดความเหลื่อมล้ำลง โดยเพิ่มอัตราละ 400-1,300 บาท
พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า โดยจะปรับเพดานอัตราเงินเดือนดังนี้ ระดับพล.ท. พล.ร.ท. พล.อ.ท.จากเงินเดือน 74,320 บาท เยียวยาเป็น 75,560 ถึง 76,800 บาท ระดับ พล.ต. พล.ร.ต. พล.อ.ต. จากเงินเดือน 69,040 บาท เยียวยาเป็น 70,360 ถึง 74,320 บาท ระดับ พ.อ. น.อ. น.อ.อ. จากเงินเดือน 58,390 บาท เยียวยาเป็น 59,500 บาท ระดับจ่าสิบตรี พันจ่าตรี พันจ่าอากาศตรี ถึงจ่าสิบเอก พันจ่าเอก พันจ่าอากาศเอก จากเงินเดือน 29,690 บาท เยียวยาเป็น 30,220 บาท ถึง 38,750 บาท และระดับสิบตรี จ่าตรี จ่าอากาศตรี ถึงสิบเอก จ่าเอก จ่าอากาศเอก จากเงินเดือน 21,480 บาท เยียวยาเป็น 21,880 บาท ถึง 38,750 บาท ส่วนข้าราชการตำรวจ ระดับ พล.ต.ท.จาก 74,320 บาท เยียวยาเป็น 75,560 บาท ถึง 76,800 บาท ระดับ พล.ต.ต.จากเงินเดือน 69,040 บาท เยียวยาเป็น 70,360 บาท ถึง 74,320 บาท ระดับพ.ต.อ.(พิเศษ) จากเงินเดือน 69,040 บาท เยียวยาเป็น 70,360 บาท ระดับ พ.ต.อ.จาก 58,390 บาทเยียวยาเป็น 59,500 บาท
ที่มาข่าวhttp://www.matichon.co.th/news/79195
ขอบคุณรูปภาพจากMThai News