ส่องค่าเทอม ลูกดาราคนดังสูงมาก เเต่เพื่อให้อนาคตที่ดี


“การศึกษา” ต้องบอกเลยว่า สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่แล้วย่อมอยากให้ลูกๆได้เข้าเรียนในโรงเรียนดีๆเพราะเชื่อว่าบุตรหลานจะได้ความรู้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ ไม่แปลกเลยที่เหล่าบรรดาดาราและคนดังทั้งหลาย จะส่งบุตรหลานเข้ารียนในโรงเรียนที่มีชื่อเสียง ถ้าได้เห็นค่าเทอมแล้วจะต้องร้องโอ้โห! กันเลยทีเดียว

“น้องณดา-น้องณดล” สองพี่น้องแห่งบ้านปุณณกันต์ น้องณดาและน้องณดล ลูกของแม่กบ สุวนันท์ กับพ่อบรู๊ค ดนุพร ปุณณกันต์ ได้เข้าเรียนที่โรงเรียน Harrow International School ซึ่งเป็นโรงเรียนนานาชาติชื่อดัง มีค่าเทอมต่อปีสูงถึง 672,000 บาท และน้องณดลที่อยู่ในชั้นเตรียมอนุบาลมีค่าเทอมประมาณปีละ 507,000 บาท

“น้องมะลิ พาขวัญ” ลูกสาวของคุณพ่อ ปอ ทฤษฎี พระเอกในดวงใจตลอดกาล และคุณแม่โบว์ แวนดา สหวงษ์ ได้เข้าเรียนที่ Prep International Kindergarten เป็นโรงเรียนนานาชาติที่พ่อ “ปอ” ตั้งใจเลือกไว้ให้น้องมะลิโดยเฉพาะ และคุณแม่โบว์ได้สานต่อส่งน้องมะลิเข้าเรียน โดยมีค่าเทอมต่อปีประมาณ 275,000 บาท

“น้องวันใหม่ ฉัตรบริรักษ์” สมาชิกของบ้านฉัตรบริรักษ์ ที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจ ปัจจุบันกำลังเรียนอยู่ที่ โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ ค่าเทอมประมาณปีละ 280,000 บาท

“น้องเนซ สิรินทร์” ลูกสาวของคุณแม่แหม่ม เรียนที่ โรงเรียนบางกอกพัฒนา (Bangkok Patana School) ซึ่งเป็นโรงเรียนนานาชาติ โดยมีค่าเทอมปีละประมาณ 595,100 บาท

“น้องโปรด อัษศดิณย์” ลูกชายของคุณแม่”เป้ย ปานวาด”ปัจจุบันน้องโปรดเรียนโรงเรียนเดียวกับน้องณดาและน้องณดลคือ Harrow International School ซึ่งมีค่าเทอมปีละประมาณ 672,000 บาท

ที่มา https://goo.gl/k7NGhW

เรียบเรียงโดยDPSNews

ใครบอกแม่บ้านทำงานบ้านได้อยางเดียว! เเม่บ้านเลี้ยง“กุ้งก้ามแดง” อยู่กับบ้านชิลๆ มีรายได้หลักแสนบาทต่อเดือน


ใครบอกว่า แม่บ้าน แค่ทำงานบ้านรอเงินเดือนจากสามี แต่เมื่อชีวิตเปลี่ยนไป ค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น การหาเงินทางเดียวไม่พอเสียแล้ว วันนี้ทำให้เราได้เห็นแม่บ้านยุคใหม่หันมาหารายได้ควบคู่ไปกับการเป็นแม่บ้าน

โดยแม่บ้านที่เราพูดถึง อาชีพของเธอไม่ธรรมดา เพราะเธอมีรายได้เป็นหลักแสนบาทต่อเดือนเลยทีเดียว อาชีพที่ว่านั้นก็คือ เพาะเลี้ยงกุ้งก้ามแดงจำหน่ายของ “สุพรรณี ศิริสวัสดิ์” ขึ้นแท่นเป็นตัวแทนเลี้ยงกุ้งก้ามแดงของจังหวัดนนทบุรี เพราะทุกคนรู้จักแฟนเพจในชื่อ “กุ้งก้ามแดง นนทบุรี”

แม่บ้านเลี้ยง “กุ้งก้ามแดง” อยู่กับบ้านชิลๆ มีรายได้หลักแสนบาทต่อเดือน
บ่อ ที่ใช้พื้นที่หน้าบ้าน

กุ้งก้ามแดง สัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ที่กำลังถูกจับตามอง เพราะมีเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์น้ำ หันมาให้ความสนใจการเลี้ยงจำนวนมาก ทั้งรายย่อย อาศัยพื้นที่บ้าน ทาวน์เฮาส์เพาะเลี้ยงพ่อ-แม่พันธุ์ หรือลูกกุ้งจำหน่าย ผู้เลี้ยงกุ้งก้ามแดงวันนี้มีหลายรูปแบบ มีตั้งแต่เด็กวัยรุ่นเลี้ยงสนุกๆ แม่บ้าน ผู้ที่ตกงาน และยังรวมไปถึงเกษตรกรที่เลี้ยงกุ้งแบบขายเป็นกุ้งเนื้อด้วย

แม่บ้านเลี้ยง “กุ้งก้ามแดง” อยู่กับบ้านชิลๆ มีรายได้หลักแสนบาทต่อเดือน
ในกาละมังก็เลี้ยงได้เช่นกัน

“สุพรรณี” เล่าว่า เริ่มเลี้ยงกุ้งก้ามแดงเมื่อปี 2557 ตอนนั้นได้รู้จักกุ้งก้ามแดงจากรายการทีวี ซึ่งเพาะเลี้ยงในท้องนา พอเห็นรู้สึกชอบ ก็เลยลองไปซื้อพ่อแม่พันธุ์ จากผู้เพาะเลี้ยงกุ้งในจังหวัดกำแพงเพชร ตอนนั้นคิดเพียงว่ามาเลี้ยงไว้ดูเล่นเพลินในบ่อเลี้ยงปลา หลังจากเลิกเลี้ยงปลาไปก่อนหน้านี้ แต่พอเลี้ยงได้ระยะหนึ่งปรากฎว่าออกลูก มาหลายร้อยตัว เพราะแม่พันธุ์หนึ่งตัวจะให้ลูกประมาณ 400-500 ตัว ซึ่งตอนนั้นมีแม่พันธุ์ที่พร้อมให้ลูกถึง 4-5 ตัว ปรากฎว่า ครั้งนั้นได้ลูกกุ้งหลักพันตัว ซึ่งช่วงนั้น เมื่อประมาณ 1-2 ปีก่อนหน้านี้ การเลี้ยงกุ้งก้ามแดง ยังไม่ได้รับสนใจมากนัก ทำให้เรากังวลว่าแล้วจะไปขายที่ไหน ก็ลองศึกษา และเข้ากลุ่มในเฟซบุ๊ก กลุ่มคนเลี้ยงกุ้งก้ามแดง มีฟาร์มเลี้ยงกุ้งรายใหญ่แห่งหนึ่งสนใจ ขณะนั้นกลัวขายไม่ได้ เสนอขายในราคา 3 บาท เป็นลูกกุ้งขนาด 1 นิ้ว หรือ 1 เดือน ดีใจมากที่ขายได้ เพราะเป็นเงินก้อนแรกที่ขายได้ จำนวนลูกกุ้ง 3,000 ตัว และบางส่วนได้คัดลูกกุ้งที่น่าจะเป็นพ่อ แม่พันธุ์ มาเลี้ยงต่อ ด้วย

แม่บ้านเลี้ยง “กุ้งก้ามแดง” อยู่กับบ้านชิลๆ มีรายได้หลักแสนบาทต่อเดือน
ท่อพีวีซี เตรียมไว้เป็นที่อยู่ของกุ้ง

ปัจจุบันฟาร์มกุ้งก้ามแดงของ “คุณสุพรรณี” จำหน่ายมีพ่อ แม่พันธุ์ และลูกกุ้งเป็นหลัก โดยราคาพ่อ แม่พันธุ์ จำหน่ายในราคาชุดละ 900 บาท ตัวผู้ 1 ตัวเมีย 1 ส่วนราคาลูกกุ้ง เริ่มจำหน่ายกันตั้งแต่ 7 วัน ราคาตัวละ 7 บาท กุ้งขนาด 1 นิ้ว ราคา 18 บาท และขนาด 2 นิ้ว ราคา 60 บาท ขนาด 3 นิ้ว 150 บาทถึง 200 บาท และ 4 นิ้ว ราคา 250 บาท และ 5 นิ้วขึ้นไป 300 บาทขึ้นไป ( ราคาเปลี่ยนแปลงไปตามราคาในท้องตลาด) เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงที่กุ้งก้ามแดงเป็นที่ต้องการของตลาด ทำให้ราคาเพิ่มขึ้นไปมาก

แม่บ้านเลี้ยง “กุ้งก้ามแดง” อยู่กับบ้านชิลๆ มีรายได้หลักแสนบาทต่อเดือน
แยกเลี้ยงในตะกร้ารอออกลูก

“เดิมตนเองเป็นแม่บ้านมาตลอด หลังจากแต่งงาน 15 ปี หลังจากแต่งงานก็เป็นแม่บ้านมาตลอด และพอมาหันมาเลี้ยงกุ้งก้ามแดง ปรับพื้นที่บ้านเป็นที่เลี้ยงกุ้ง โดยใช้การก่ออิฐและกะละมังพลาสติกดำขนาดใหญ่เป็นบ่อเลี้ยง ซึ่งใช้พื้นที่หน้าบ้าน และบนดาดฟ้า เป็นพื้นที่เลี้ยง เนื่องจากกุ้งก้ามแดงเป็นกุ้งที่เลี้ยงง่าย ทำให้ปรับทุกบริเวณในบ้านเป็นที่เพาะเลี้ยงกุ้งได้ ”

พอถามถึงรายได้ ในช่วงที่่เริ่มต้นมีรายได้ไม่แน่นอน เดือนหนึ่งหลักหมื่นบาท จนขยับมาหลายหมื่นบ้าน ในปัจจุบัน บางเดือนเป็นหลักแสนบาท

แม่บ้านเลี้ยง “กุ้งก้ามแดง” อยู่กับบ้านชิลๆ มีรายได้หลักแสนบาทต่อเดือน
สุพรรณี ศิริสวัสดิ์ เจ้าของ

สำหรับการลงทุนตั้งแต่เริ่มต้นมาจนถึงปัจจุบันอยู่ที่หลักแสนบาท (ระยะเวลาเกือบ 2 ปีเพาะกุ้งได้มากกว่า 3,000 ตัว เพาะพ่อ แม่พันธุ์หลักร้อยตัว) แต่เป็นลักษณะค่อยๆ ลงทุน ซึ่งรายจ่ายส่วนใหญ่จะไปอยู่ที่อุปกรณ์ และพ่อ แม่พันธุ์ และการลงทุนนำอาหารมาจำหน่ายรวมอยู่ในค่าใช้จ่ายตรงนี้ด้วย หลังจากได้ผลผลิต ไม่ต้องซื้อพ่อแม่พันธุ์เนื่องจากเพาะได้เอง จะมีค่าใช้จ่ายเพียงแค่ค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟ เท่านั้น

แม่บ้านเลี้ยง “กุ้งก้ามแดง” อยู่กับบ้านชิลๆ มีรายได้หลักแสนบาทต่อเดือน

ที่ผ่านมาพบว่าคนที่มาขอซื้อพ่อ แม่พันธุ์ไปเลี้ยงส่วนใหญ่ก็จะเป็นเด็กวัยรุ่นบ้าง บางคนก็ลาออกจากงานมาดูแลแม่ที่ป่วย คนเหล่านี้ก็ไม่รู้จะไปทำอะไร พอซื้อกุ้งไปเลี้ยง และขายได้ทำให้เขามีรายได้ บางคนมีรายได้มากกว่าการทำงานประจำ หรือน้องๆ ที่อยู่ในวัยเรียนมีรายได้หาเงินซื้อของที่ต้องการโดยไม่ต้องไปขอเงินพ่อแม่ และที่สำคัญไม่ต้องใช้เงินลงทุนสูง เพียงหลักพันบาทก็มีอาชีพได้

แม่บ้านเลี้ยง “กุ้งก้ามแดง” อยู่กับบ้านชิลๆ มีรายได้หลักแสนบาทต่อเดือน
เลี้ยงในกล่องแบบนี้รอขุนเป็นพ่อ แม่พันธุ์

สำหรับลูกค้าคุณสุพรรณีมาจาก 2 ทาง คือ ในเฟซบุ๊ก และการบอกกันแบบปากต่อปาก คุณสุพรรณีบอกว่า เธอได้เข้าไปอยู่ในกลุ่มคนเลี้ยงกุ้งก้ามแดงในเฟซบุ๊ก ทำให้ได้รู้จักกลุ่มคนเลี้ยง และคนที่ต้องการกุ้งไปเลี้ยงมักจะเข้ามาในกลุ่ม เพื่อหากุ้ง ที่ผ่านมามีคนสนใจเลี้ยงกันมากเพราะราคากุ้งที่สูง และตลาดยังมีความต้องการอยู่มาก โดยเฉพาะพ่อ แม่พันธุ์ที่ราคาสูงถึงตัวละ 300-500 บาท และกุ้งที่ขายกินเนื้อราคาถึงกิโลกรัมละ 1,000 บาท

อย่างไรก็ตาม ผู้อยากเลี้ยง คงต้องศึกษาข้อมูลให้ดีเสียก่อนว่า เลี้ยงไปแล้วจะเอาไปขายที่ไหนด้วย เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง

โทร. 08-5915-3899, www.facebook.com/กุ้งก้ามแดง นนทบุรี

ขอบคุณที่มา: http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9590000015402

เรียบเรียงโดย: DPSNews

อย่าทำเด็ดขาด! รู้หรือไม่! ผลเสียของการเล่นโทรศัพท์ในห้องน้ำ


วันนี้DPSNews มานำเสนอเกี่ยวกับผลเสียของการเล่นโทรศัพท์ในห้องน้ำ ปัจจุบันนี้พฤติกรรมในการใช้โทรศัพท์มือถือของคนเรายิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเข้าห้องน้ำก็ยังพกโทรศัพท์มือถือเข้าไปนั่งแชท เล่นเกม เล่นเน็ต เพราะมีโทรศัพท์มือถือเลยทำให้การเข้าห้องน้ำยิ่งนานขึ้น  แต่คุณทราบไหมว่าทำแบบนี้มันไม่ดีต่อสุขภาพเลยนะ!

การที่เรานำโทรศัพท์เข้าไปเล่นในห้องน้ำเป็นพฤติกรรมเสพติดอีกอย่างหนึ่งของมนุษย์ที่ใครหลายๆคนทำจนเกิดเป็นนิสัย เเต่คุณไม่รู้หรอว่าการที่คุณนำโทรศัพท์เข้าไปเล่นในห้องน้ำนั้นเสี่ยงเป็นโรคต่างๆมากมายที่คุณคาดไม่ถึง ถึงเเม้ว่าห้องน้ำของคุณจะสาอาดมากเเค่ไหนขึ้นชื่อว่าห้องน้ำเเล้ว ยังไงก็สกปรกอยู่ดี อัพยิ้มก็เลยอยากขอให้ท่าน หาที่ว่างสักที่เเล้วลองวางโทรสักนาทีในขณะที่เราเข้าห้องน้ำ ไม่ได้ขอให้ทำเพื่อใครเเต่ขอให้คุณทำเพื่อคุณเอง หากคุรติดโรคเเล้วคุณอาจจะไม่ได้เล่นโทรศัพท์อีกก็ได้ วันนี้เราก็เลยนำข้อมูลดีๆเกี่ยวกับเชื้อร้ายเรงที่ติดมากับโทรศัพท์มาให้อ่านค่ะ

ชาร์ลส์ เกอร์บา ศาสตราจารย์ด้านจุลชีววิทยา และ เคลลี่ นาร์ด ศาสตราจารย์ด้วยอนามัยและสิ่งแวดล้อม จากมหาวิทยาลัยแอริโซนา ได้ทำการศึกษาด้านพฤติกรรมของการนำโทรศัพท์เข้าไปใช้ในห้องน้ำ ตรวจพบว่า เชื้อโรคในห้องน้ำ จะติดเเละปะปนกันออกมากับโทรศัพท์ เเละทำให้เราป่วยได้ รวมไปถึงการเเพร่ระบาดของเชื้อ norovirus, E.coil, Salmonella, Shigella, โรคไวรัสตับอักเสบA และไข้หวัดกระเพาะอาหาร เเละพฤติกรรมที่อาจทำให้คุณเสี่ยงติดเชื้อคือ มีลักษณะตาเเดง เพียงเเค่มือของเราสัมผัสท์กับโทรศัพท์ เเล้ว จับหน้า ใบหู ปาก ถึงเเม้คุณคิดว่าการล้างมือจะสะอาดเเล้วคุณคิดผิดค่ะ เพราะคุณจะต้องไปจับประตูห้องน้ำซึ่งก็ยังมีเชื้อโรคติดมาอยู่ดี

ผลเสียของการเล่นโทรศัพท์ในห้องน้ำ 5 ประการ มีอะไรบ้างมาดูกันเลย!

 

1. สูดเชื้อโรคนานเกิน ก่อให้เกิดอาการอักเสบภายในร่างกาย

เวลาที่นั่งบนชักโครก  ร่างกายของเราต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยเชื้อโรคและอากาศไม่ถ่ายเท  ถ้าอยู่ในห้องน้ำนานๆ ก็เท่ากับต้องสูดอากาศที่มีเชื้อโรคเข้าไปในร่างกายอยู่ตลอด  ถ้าเป็นรุนแรงก็จะมีอาการอักเสบต่างๆในร่างกายได้  เวลาทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำจึงควรรีบทำให้เสร็จไวๆเพื่อลดเวลาที่ร่างกายต้องสัมผัสกับเชื้อโรค

2. นั่งนานเกินไป ทำให้เป็นโรคริดสีดวงทวารหนัก

การเล่นโทรศัพท์มือถือในห้องน้ำทำให้ใช้เวลาในการถ่ายอุจจาระนานเกินความจำเป็น การนั่งถ่ายอุจจาระในท่าเดิมนานๆ จะทำให้เลือดคั่งที่ทวารหนัก  มีผลงานวิจัยระบุว่า หากนานเกิน 3 นาทีจะก่อให้เกิดเส้นเลือดขอดในลำไส้ตรง (rectum) จนกลายเป็นโรคริดสีดวงได้ นอกจากนี้  การนั่งขับถ่ายเป็นเวลานานๆยังทำให้มีอาการไส้ตรงปลิ้นขณะขับถ่าย

3. พลาดช่วงเวลาที่ร่างกายต้องขับถ่าย จนทำให้ท้องผูก

การเล่นโทรศัพท์มือถือจะทำให้เราไม่ใส่ใจกับช่วงเวลาที่ต้องขับถ่าย ไม่รู้สึกว่าอยากเข้าห้องน้ำปลดทุกข์ จนก่อให้เกิดอาการท้องผูกโดยไม่รู้ตัว ถ้าคุณรู้สึกว่าตนเองขับถ่ายลำบาก อย่าไปคิดว่าการขับถ่ายเป็นเรื่องน่าเบื่อหรือลำบากจนต้องหาอะไรอ่านหรือเล่นเกมเพื่อฆ่าเวลา ทำแบบนี้จะยิ่งขับถ่ายยากขึ้นจนกลายเป็นว่านั่งส้วมนานๆ ก็ยังถ่ายไม่ออก

4. หน้ามืดเวียนหัว ขาเป็นเหน็บชา

การนั่งยองๆนานเกินไปจะทำให้เลือดในร่างกายไหลลงสู่ด้านล่างจนเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ คนทั่วไปนั่งยองๆนานๆแล้วลุกขึ้นทันทีมักจะเกิดอาการหน้ามืดเพราะการไหลเวียนของเลือดติดขัด ถ้านานเกินไป ออกซิเจนจะไปเลี้ยงเซลล์ไม่เพียงพอทำให้เส้นประสาทชา บางคนจึงมีอาการขาเป็นเหน็บชาได้

5. มือถือร่วงหล่น พังเสียหาย

การนำโทรศัพท์มือถือเข้าไปเล่นในห้องน้ำ หากเผลอไม่ระวัง มือถืออาจร่วงจากมือหรือหล่นจากตรงที่ที่เราวางไว้ ทำให้หน้าจอแตกหรือเครื่่องพังได้ ถ้าหนักยิ่งกว่านั้นคือหล่นลงส้วม งานเข้าเลยล่ะทีนี้!

เพราะฉะนั้น ทางที่ดีครั้งต่อไปอย่านำมือถือเข้าไปเล่นในห้องน้ำเลย เพราะอาจทำร้ายสุขภาพตัวเองโดยไม่รู้ตัวหรือมือถือเสียหายโดยไม่ทันระวัง ช่วยกันแชร์ไปให้เพื่อนๆของคุณที่ชอบทำแบบนี้ ด้วยความห่วงใยนะจ๊ะ

ขอบคุณที่มา:http://box.upyim.co/40616/ เเละ  http://www.liekr.com/post_140450.html

เรียบเรียงโดยDPSNews

ส่องนายแพทย์สุดหล่อ“หมอโอ๊ต”งานนี้สาวๆ หัวใจละลายกันเป็นเเถว!!


อยากจะบอกว่าวันนี้เผ็ดมาก เผ็ดแบบยังไม่ต้องกินอะไรรสจัด แต่ก็ซี๊ดซ๊าดด หนักม๊ากก เพราะช่วงนี้อากาศเปลี่ยนบ่อย ร่างกายไม่ค่อยสบาย แต่อาการต่างๆ จะหายไป เมื่อมาเจอ หมอสุดหล่อที่จะมาช่วยเยียวยาอากาศไม่สบาย ให้ทั้งสาวน้อย สาวใหญ่ สาวแท้ สาวเทียม แม้กระเทียม และหัวหอมในแผงผักในตลาด ยังต้องสดชื่นกลับมามีชีวิตชีวาฟิตปั๋งกันอีกครั้ง เมื่อได้ชมความหล่อเซอร์ของหมอคนนี้ ว่าแต่เค้าคือใคร ไม่เสียเวลา ไปชมกันเลย ฮ่าาาาาา

“หมอโอ๊ต” หรือ “พท.สุเมธี นามเกิด” อายุ 25 ปี แพทย์แผนไทยปฎิบัติการ จากวิทยาลัยการแพทย์พื้นบ้านและการแพทย์ทางเลือก มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เป็นหนุ่มเหนือที่ดูแล้ว ละลายทันที เอ๊าดูให้อิ่มอกอิ่มใจกันไปเลยนะจ้าววว

ที่มา: https://goo.gl/27ZKDk

แห่งเดียวในประเทศไทย !! วัดเดียวที่ไม่มีใครกล้าเข้าไป แม้แต่พระที่เข้ามา ก็ไม่มีพระรูปไหนสามารถอยู่ได้ !!


สำนักสงฆ์ร้างแห่งนี้  อยู่ที่  อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เจ้าอาวาสวัดเล่าว่า พื้นที่บริเวณนี้เป็นมรดกตกทอดจากบิดาของพระอาจารย์ซ่วน ปัญญาธโล อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าลาดใต้ พระเกจิดังเรื่องปลัดขิกเมื่อหลายสิบปีก่อน แต่เนื่องจากท่านเป็นพระที่มุ่งปฏิบัติสมาธิภาวนา “กสิญสิบ” สื่อสารกับดวงวิญญาณ-ภูตผี จนทำให้ไม่มีเวลาปฏิบัติกิจของสงฆ์ จึงลาสิกขาบท ออกมาตั้งสำนักสงฆ์แห่งนี้ จากนั้นมาพระอาจารย์ซ่วนก็มุ่งมั่นปั้นรูปั้นต่างๆขึ้น เช่น กุมารทอง, นางกวัก, ตุ๊กตาเด็ก

15304521_1278956342170168_9107802580169448395_o(1)

15369285_1278956225503513_6691706295527431811_o(1)

15492248_1616213158682140_7960540737750751026_n(1)

15542132_1616213078682148_1925881584829396952_n(1)

รูปปั้นนับร้อยที่พระอาจารย์ซ่วนได้ปั้นขึ้น จะมีการลงอักขระอาคมไว้ทั้งหมด บางตัวมีส่วนผสมของชิ้นส่วนคนตาย โดยเฉพาะผิวหนังของร่างคนตายที่สักยันต์ แต่เผาไม่ไหม้ จะถูกนำมาเป็นมวลสารในการปั้น และทุกตัวจะมีช่องสำหรับนำอัฐิคนตายบรรจุไว้ด้านใน หากญาติผู้เสียชีวิตแจ้งความประสงค์อยากให้วิญญาณสถิตอยู่ในรูปปั้นเหล่านี้ พระอาจารย์ซ่วนก็จะประกอบพิธีบรรจุอัฐิให้

15542375_1616213082015481_3266158761990094096_n(1)

15578436_1616213055348817_102023375203920809_n(1)

15578873_1208709285875657_6355479419590568572_n(1)

18921885_306992009727541_2790828943062188598_n(1)

กระทั่งปี 2536 พระอาจารย์ซ่วนมรณภาพลง ตั้งแต่นั้น สถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ก็ไร้พระสงฆ์เข้ามาจำวัด หลายครั้งที่ทางวัดให้พระสงฆ์เข้ามาฟื้นฟูสถานที่ แต่ไม่เคยมีพระรูปไหนอยู่ได้ อ้างพบเห็นสิ่งที่ชวนพิศวง ทั้งงูยักษ์เลื้อยผ่าน ได้ยินเสียงดังแปลกๆ คล้ายเสียงคนพูดคุยกัน จนสุดท้ายจำเป็นต้องปล่อยให้ทิ้งร้าง

แต่ก็มักมีคนแอบเข้ามาในสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ เพราะทั้งรูปปั้นและปลัดขิกขนาดใหญ่ ต่างเป็นที่จับจ้องของกลุ่มคนบูชาเครื่องรางของขลัง เคยถึงขั้นมีคนลอบนำรถเครนเข้ามา หวังยกปลัดขิกนำกลับไปบูชา แต่ก็ไม่สำเร็จ ยกเท่าไหร่ก็ยกไม่ขึ้น แม้จะใช้คนนับ 10 ชีวิต ที่สุดก็ต้องถอยกลับไป

 

19029386_306992066394202_5019443088783260128_n(1)

19029372_306991706394238_7948126970916104783_n(1)

ขอบคุณภาพ : อุทยานหุ่นปั้น สำนักสงฆ์ร้างอาจารย์ซ่วน

ที่มา: http://seng-ped.com/?p=63

ไอเดียเจ๋ง! เกษตรกรพิจิตรสลักชื่อลูกเมล่อน สร้างแรงจูงใจให้ลูกค้า สร้างรายได้หลายเเสน


เกษตรกรพิจิตรหัวใส สลักชื่อบนผลเมล่อน สร้างแรงจูงใจให้ลูกค้า ที่ต้องการนำไปเป็นของฝาก ไม่สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

วันที่ 4 มิ.ย. 60 ผู้สื่อข่าวเกษตรกรผู้ปลูกเมล่อน ในพื้นที่หมู่ที่ 7 บ้านมาบแฟบ ตำบลเนินปอ อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร สร้างแรงจูงใจให้กับลูกค้าด้วยการทดลองสลักชื่อลงบนผลเมล่อน เพื่อเพิ่มแรงจูงใจในการซื้อสำหรับผู้ที่ต้องการนำผลเมล่อนเพื่อไปมอบเป็นของขวัญและของที่ระลึก

โดยทดลองสลักชื่อ นายวีระศักดิ์  วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ลงบนผลเมล่อน ผลผลิตออกมาน่าพึงพอใจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรชื่นชมเป็นความคิดที่ดีที่จะส่งเสริมการขายเนื่องจากเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่หาที่ไหนไม่ได้ เชื่อจะได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการจะนำผลเมล่อน ผลไม้ขึ้นชื่อไปมอบเป็นของขวัญของที่ระลึกในโอกาสต่างๆ นับเป็นความคิดสร้างสรรค์ที่ต่อยอดจากการสู้วิกฤติราคาข้าวตกต่ำ แบ่งพื้นที่ปลูกเมล่อนสร้างรายได้งาม โรงเรือนละ 50,000 บาท ต่อการปลูก 1 รอบ ซึ่งใช้เวลาในการปลูก 60-65 วัน

นายราม พลวัน อายุ 45 ปี ได้แนวคิดการปลูกเมล่อนจากศูนย์สาธิตเมล่อนที่วัดมาบแฟบ ซึ่ง พระเมธีธรรมประนาท เจ้าคณะอำเภอเมืองพิจิตร  จัดสร้างขึ้นให้ประชาชนในหมู่บ้านได้ศึกษา จึงแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งซึ่งเคยทำนาที่ตนเองและครอบครัวทำอยู่จำนวน 20 ไร่  ลงทุนสร้างโรงเรือนขนาด 6 เมตร คูณ 36 เมตร  ซึ่งครั้งแรกจะต้องลงทุนสูงหน่อยแต่ก็ใช้ได้นาน ปลูกเมล่อนชุดแรก 600 ต้น ใช้เวลาเพียง 60 วัน สร้างรายได้ประมาณ 50,000 บาท ซึ่งเป็นรายได้ดีทดลองปลูกมากว่า 2 ปี  จึงขยายโรงเรือนเพิ่มอีก 2 โรงเรือนเพื่อเพิ่มผลผลิตที่จะออกสู่ตลาด ซึ่งจะมีพ่อค้าที่เดินทางมารับซื้อถึงที่

ด้านนายวีระศักดิ์  วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ซึ่งเดินทางเยี่ยมชมและให้กำลังใจ รวมไปถึงร่วมตัดผลเมล่อนที่พร้อมจำหน่าย กล่าวว่า ชื่นชมความคิดสร้างสรรค์ที่มีการสลักชื่อลงบนผลเมล่อน ความรู้สึกส่วนตัวที่เห็นชื่อของตนเองบนผลเมล่อนแล้วภาคภูมิใจ และมองว่าน่าจะเป็นจุดขายที่ดีเนื่องจากเป็นสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นสิ่งเฉพาะบุคคล หรือองค์กรที่จะนำไปใช้ในโอกาสต่างๆ โดยเฉพาะนำไปมอบเป็นของฝาก ของที่ระลึก ซึ่งจะสามารถสร้างความประทับใจทั้งผู้ให้และผู้รับได้เป็นอย่างดี

สำหรับการปลูกเมล่อนนับว่าเป็นทางออกของเกษตรกรที่ทำนาเป็นอาชีพหลักที่แบ่งพื้นที่นาข้าว เพื่อปลูกพืชชนิดอื่นเพื่อสร้างรายได้ ลดความเสี่ยงของการขาดทุนจากปัญหาภัยธรรมชาติและราคาผลผลิตตกต่ำ ซึ่งสามารถสร้างรายได้งามให้กับเกษตรกรผู้เพาะปลูก

ส่วนการสลักชื่อลงบนผลเมล่อน เป็นการทดลองต่อยอดในการส่งเสริมการขาย โดยเกษตรกรจะสลักชื่อบนผลเมล่อนในช่วงอายุ 35-40 วัน ซึ่งยังเป็นช่วงผลอ่อน วิธีการใช้เหล็กในการสลัก การสลักจะไม่ให้ลึกจนถึงเนื้อเมล่อน เมื่อเมล่อนแก่เต็มที่ก็จะมีลวดลายบนผลเมล่อนเป็นชื่อที่ต้องการ

สำหรับท่านใดที่ต้องการจะมีผลเมล่อนที่มีชื่อเฉพาะเพื่อใช้มอบเป็นของขวัญของที่ระลึกเฉพาะตัวสามารถติดต่อได้ที่  081-469-8262  และ 081-279-4242  ราคาแตกต่างจากการจำหน่ายผลผลิตตามปกติเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ที่มา http://drama-thailand.com/2017/06/05/05-2/

ขอบคุณ ข้อมูล ภาพ : workpoint

อยากไปเรียนมั้ย? มหาลัยสอนหนังโป๊ ของพระเอกหนังโป๊ในตำนาน”ร็อคโค่ ซิฟเฟรดี้”


ใครที่เป็นแฟนหนัง AV คงจะจำได้ถึงพระเอกหนัง AV ในตำนาน ร็อคโค่ ซิฟเฟรดิ ที่โด่งดังมาจาก ทาร์ซาน xxx ผู้มีผลงานมากว่า 2000 เรื่อง มือโปรระดับนี้ พี่แกกลัวจะไม่มีคนสืบทอดจึงเปิด “Porn University” เพื่อค้นหาดาวดวงใหม่ประดับวงการหนังโป๊

มหาวิทยาลัยแห่งนี้ เป็นสถาบันการศึกษาเฉพาะทางเพื่อสอนเทคนิคทั้งหมดของการแสดงที่จำเป็นต้องใช้ เช่นวิธีการอยู่หน้ากล้อง การใช้คำหยาบ และวิธีการทำงานในตำแหน่งที่ดูดีที่สุดบนหน้าจอ นักศึกษาที่เรียนที่นี่จะได้โบนัสพิเศษจากการ Training เป็นการเข้าร่วม TV Show ของมหาวิทยาลัย “Universita del Porno” อีกด้วย

งานนี้เห็นทีคงมีคนรอต่อแถวเข้ามหาวิทยาลัยแห่งนี้เยอะแน่ๆ นี่จึงเป็นเหตุผลให้ผู้อำนวยการอย่าง Rocco Siffredi ต้องจำกัดการรับสมัครอยู่ที่คอร์สละ 21 คนเท่านั้น (ผู้หญิง 7, ผู้ชาย 14) และต้องการแค่ผู้ที่สนใจและรักในอาชีพนี้จริงๆ เรียกว่าเป็นเรื่องเป็นราว เอาจริงเอาจังมากก ไม่รู้ว่าค่าเล่าเรียนเท่าไหร่นะ ใครสนใจเชิญสมัครลงเรียนได้นะครับบบบ

ที่มา www.skaihow.com
เรียบเรียงโดย DPSNews

หนุ่มหล่อขับบีเอ็มพลิกคว่ำ! สาวๆเเห่ให้กำลังใจ


เพจเฟซบุ๊ก คนข่าวบางประกง โพสต์ภาพข่าว พร้อมระบุข้อมูลเกี่ยวกับอุบัติเหตุ ที่กำลังเป็นกระแสในสื่อสังคมออนไลน์ กรณีที่นายธธีร์ทัย บุญบรรเจิดกิตติ์ อายุ 22 ปี ขับรถเก๋ง บีเอ็มดับบลิว 320 สีดำ ทะเบียน ฆภ 9000 กรุงเทพมหานคร ชนป้ายบอกทาง จนกระทั่งพลิกคว่ำ ซึ่งรถยนต์คันดังกล่าวได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่โชคดีคาดเข็มขัดบาดเจ็บเล็กน้อยบนถนนมอเตอร์เวย์ ขาเข้าชลบุรี กม.41+500 หมู่10 ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา

โดยโลกโซเชียลได้ให้ความสนใจต่อกรณีดังกล่าวเป็นอย่างมาก เนื่องจากคนขับรถบีเอ็มดับบลิว คันดังกล่าว มีหน้าตาหล่อเหลา จึงมีผู้ใช้เฟซบุ๊กเพศหญิง เข้ามาให้กำลังใจ พร้อมทั้งค้นหาช่องทางในการติดต่อนายธธีร์ทัยบนโลกออนไลน์ ทั้งโปรไฟล์เฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม ส่วนบางกระแสก็กล่าวถึงความปลอดภัยของรถ ที่แม้จะมีสภาพพังยับเยิน แต่คนขับกลับได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย รวมไปถึงประเด็นเรื่องดวงของคนขับที่นับว่าโชคดีที่รถคว่ำขนาดนี้ แต่กลับไม่เป็นอะไรมาก และมีการเข้ามาสอบถามเชิงขบขันว่า นายธธีร์ทัยห้อยพระรุ่นไหนถึงได้เคราะห์ดีเช่นนี้
อย่างไรก็ตาม มีการสิบทราบว่า นายธธีร์ทัย ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นถึงลูกชายนายณรงค์ บุญบรรเจิดศรี นายกเทศมนตรีเมืองสัตหีบ

IG : https://www.instagram.com/bossboonbanjerdsri/

ความคิดเห็นเเฟนๆชาวเน็ต

ขอบคุณภาพและเนื้อหาจาก คนข่าวบางปะกง เรียบเรียงโดย DPSNews

https://today.line.me/th/article/79d3bc4e2056d969c101155d55ec71439bfceb713bfd5f7f493eb28c422c8b40

หาชมยาก! ภาพเด็กสมัยก่อน ที่เด็กสมัยนี้ไม่มีโอกาสสัมผัส


สำหรับผมความทรงจำวัยเด็กที่เชื่อว่าเด็กสมัยนี้ส่วนใหญ่ไม่ได้สัมผัสเเน่นอน เพราะสมัยนี้โลกเปลี่ยนไปตามยุคตามสมัย ทำให้เทคโนโลยีมาครอบนำเด็กสมัยนี้เรามาย้อนอดีตวัยเด็กที่หาดูยากในสมัยนี้ ไปดูกันเลย

ขอขอบคุณ : ภาพจากอินเตอร์เน็ต และเพจ

วิธีแก้กรรมเสริมดวง เงินทองไหลมาเทมา


เคยเป็นไหม?? เสียทรัพย์ โดนโกงเงิน เก็บเงินไม่อยู่ เงินรั่วไหลออกมากมีเงินเข้ามาเก็บยังไงก็ไม่อยู่ ต้องมีเหตุให้จ่าย ต้องเสียไป มีคนยืมเงินแล้วไม่คืน โดนหลอกเอาเงินบ่อย หากินฝืดเคืองไม่คล่องตัว หาเงินด้วยความยากลำบากได้มาแล้วต้องเสียไปอย่างรวดเร็ว

ทรัพย์สินที่มีอยู่วินาศฉิบหายไปโดยคาดไม่ถึง เช่น รถคว่ำ รถชน ต้องเสียเงินโดยไม่คิดว่าจะเสีย ได้เงินมามากแต่ก็เสียไปมาก ทำธุรกิจการค้าไม่เจริญรุ่งเรื่อง แท้จริงแล้วเหตุการณ์ทั้งหมดเหล่านี้อาจจะเกิดจากกรรม “การผิดศีลข้อ 2 อทินนาทานา เวรมณี งดเว้นจากการถือเอาของที่เจ้าของมิได้ให้” ก็เป็นได้

หรือหากคุณคิดว่าตัวเองประพฤติตัวดีไม่เคยผิดศีล ก็อาจจะต้องมาปรับในส่วนของ “ฮวงจุ้ยการจัดบ้านให้เก็บเงินเก็บทอง ก็จะช่วยให้คุณสามารถเก็บกับเงินทองให้อยู่กับท่านไว้ให้ได้นานที่สุด เพื่อเป็นหลักประกันของชีวิตที่มีความสุข ของครอบครัวตลอดไปได้ โดยมีวิธีการดังต่อไปนี้

การเก็บกักเงินทอง

1. ประการแรกที่สำคัญ คือ เลิกคิดที่จะเอาทรัพย์สินเงินทองของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง โดยไม่ถูกต้องทุกกรณี เริ่มบริจาคทาน เช่น พิมพ์หนังสือธรรมะแจก ทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน สร้างโบสถ์วิหาร บริจาคให้คนยากจนเวลาทำควรทำด้วยใจบริสุทธิ์อย่าไปหวังเอาผลกำไรความโลภ

2. ประการสองที่สำคัญ คือ สภาพแวดล้อมภายในบ้าน ต้องมีการปรับแต่งเฟอร์นิเจอร์ หรือจัดวางวัตถุสิ่งของ ให้สะอาดเพราะเทวดาชอบบ้านสะอาด กลางบ้านต้องโล่ง

3. ประการสามที่สำคัญ คือ บ้านที่ท่านอยู่ จะต้องมีประตูหลังบ้านที่เล็กกว่าประตูหน้าบ้าน เพราะทางฮวงจุ้ยถือว่า ประตูหน้าบ้านมักเป็นทางเข้าของโชคลาภ และประตูหลังบ้านจะเป็นทางออกของโชคลา

4. ประการสี่ที่สำคัญ คือต้องคำนึงถึงการจัดวางตำแหน่งของตู้เก็บเงิน หรือตู้เซฟ ภายในบ้านให้ได้ตำแหน่งที่ดี มีตำแหน่งดาวโชคลาภ(มุมร่ำรวย)ของยุคปัจจุบันแทน ก็จะทำให้ท่านแสวงหาเงินทองเข้าบ้านได้ยากเช่นกัน

5. ประการห้าที่สำคัญ คือ ปฏิบัติตามแนว ทาน ศีล ภาวนา ไหว้พระสวดมนต์ บูชาทุกวัน เพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองชีวิต หน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า เงินทองไหลมาเทมา แคล้วคลาดอุปสรรคทั้งปวง แนะนำ พระคาถาพาหุงมหากา พระคาถาชินบัญชร พระคาถาพระกัณฑ์ไตรปิฎก เป็นต้น เมื่อสวดเสร็จต้องแผ่เมตตาทุกครั้ง

…เชื่อหรือไม่ว่าอานิสงส์ของการให้เงินขอทาน ให้เงินคนที่เดือดร้อน ทำให้เกิดลาภไม่ขาดสายทั้งภพนี้และภพหน้า ไม่ตกทุกข์ได้ยากเกิดมาชาติหน้าจำร่ำรวยและไม่มีหนี้สิน ความยากจนในชาตินี้จะทุเลาลงจะได้เงินทองโชคลาภมาอย่างไม่คาดฝัน

ส่วนฮวงจุ้ย คือ “น้ำ” “ลม” ของธาตุที่สัมพันธ์กับคุณได้ จะช่วยให้ท่านเกิดความสุข และช่วยเสริมบารมีของคุณในเรื่องต่างๆได้ เช่น ตำแหน่งหน้าที่การงาน เงินทอง โชคลาภ เป็นต้น

วิธีการแก้กรรมที่ผมจะแนะนำ ผมการันตีว่ามันจะเสกเงินออมให้ท่านผู้อ่านที่รักได้อย่างแน่นอน โดยที่ไม่จำเป็นต้องดิ้นรนหารายได้เสริมแต่อย่างใด ไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อเครื่องรางของขลังหรือทำพิธีอะไรให้เสียเงินด้วย แต่เป็นการแก้กรรมที่ผมเรียกว่า “เปลี่ยนการกระทำ”

วิธีง่ายๆก็คือเมื่อก่อน คุณได้รับเงินมา ก็เอาไปใช้ก่อน เหลือเท่าไหร่ค่อยออมใช่ไหมครับ แต่คนส่วนใหญ่นอกจากจะออมไม่่ค่อยได้แล้ว ยังต้องใช้บัตรเครดิตหรือยืมเงินเพื่อนอีก เพราะเราวางแผนการเงินมาไม่ดีครับ

หลักการที่ผมจะแนะนำ ง่ายๆ คือเมื่อมีเงินก้อนเข้ากระเป๋า จับโยน 10% ของเงินเข้าบัญชีธนาคารที่ไม่มีบัตร ATM เลยครับ จบ…!!!

ง่ายขนาดนี้เลยเหรอ ใช่ครับ ง่ายขนาดนี้เลย

ผมทำงานมาหลายปี ไม่เคยมีเงินเก็บ พอตกงานแล้วใช้วิธีนี้ ผมมีเงินเก็บยิ่งกว่าตอนทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนอีก ถ้าเราตั้งเป้าว่าใช้เงินก่อน แล้วสิ้นเดือนเหลือเท่าไหร่ค่อยออมก็ได้ ผมรับประกันว่า 100 ทั้ง 100 หมดครับ ไม่ใช่หมดปัญหา แต่หมดตูด…!!!

การใช้วิธีผม นอกจากจะเป็นการหักดิบแล้ว ดัดนิสัยตัวเอง ยังช่วยเพิ่มวินัยทางการเงินให้กับเราได้ด้วย ลองดูไม่เสียหายนะครับที่จะเชื่อผม หลักการแก้กรรมง่ายๆเรื่องดวงไม่มีเงินเก็บ คือ ออมก่อน ใช้ทีหลัง เก็บเข้าบัญชีที่ไม่มีบัตร ATM ก่อน แล้วค่อยใช้เงินที่เหลือ หรือถ้าพูดง่ายๆ จ่ายเงิน 10% ของรายได้ซื้อความมั่นคงในอนาคตให้ตัวเอง

ที่เอาเรื่องนี้มาพูดไม่ใช่เพราะอะไรหรอกครับ โบนัสเพื่อนๆคงจะออกแล้ว อยากให้ใช้สติบริหารมันเพื่อเป็นหลักประกันในอนาคตมากกว่าผลาญให้หมดในวันนี้ เท่านั้นเอง!!!

แล้วถ้าเพื่อนๆบอกว่า เห้ย ทำไม่ได้หรอก ขนาดทุกวันนี้ยังไม่พอใช้ ถ้าหักเงินออมออกไปก่อน จะเอาอะไรกิน ผมก็จะตอบว่าเริ่มจากออมน้อยๆก่อนก็ได้ครับ เดือนละ 5% หรือ 10% ก็ได้ ยังดีกว่าไม่มีออมเลย แต่ถ้าท่านผู้อ่านที่รักบอกอีกว่ายังไงก็ออมไม่ได้ เงินไม่พอใช้ มีวิธีอื่นอีกไหม จะให้เสียเงินบูชาเทพหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ได้

ผมก็บอกได้คำเดียวว่าตัวใครตัวมันแล้วกันครับ โชคดี

ขอขอบคุณที่มา http://horoscope.sanook.com/76213/ เรียบเรียงโดยDPSNews