ที่บ้านน้อยจอมศรี อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร ชาวบ้านส่วนใหญ่ยึดอาชีพทำการเกษตร ทำนา ทำไร่ ส่วนใหญ่ใช้น้ำจาก “เขื่อนน้ำอูน” สำหรับทำการเกษตร ฉะนั้น ผู้ที่เดินทางไปจังหวัดสกลนคร จะพบพื้นที่เขียวชะอุ่มไปด้วยข้าวนาปรัง พืชฤดูแล้ง ตลอดจนบ่อเลี้ยงปลาและเลี้ยงกบ ห่างตัวเมืองสกลนคร ประมาณ 12 กิโล มีหมู่บ้านเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของเมืองสกลนคร คือ บ้านน้อยจอมศรี ต.ฮางโฮง ชาวบ้านที่อาศัยอยู่มีกลุ่มอาชีพหลากหลาย อาทิ กลุ่มทำหมอนขิด กลุ่มเกษตรกรทำนา กลุ่มเลี้ยงปลา และกลุ่มเลี้ยงกบโดยเฉพาะกลุ่มเลี้ยงกบ ที่มีมากที่สุดของจังหวัดสกลนคร 10 กว่าราย

คุณรัตนา ศรีบุรมย์ และคุณกมลชัย ศรีบุรมย์ อยู่บ้านเลขที่ 218 ตำบลฮางโฮง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร สองสามีภรรยา เป็นหนึ่งในกลุ่มเลี้ยงกบ ที่กบพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ กว่า 3,000 ตัว โดยคุณรัตนา เล่าว่า ก่อนเลี้ยงกบเป็นอาชีพ ได้ทำนาและทำไร่มาก่อน รวมทั้งเป็นลูกจ้างกรรมกรในตัวเมือง
“นอกจากทำนาปลูกข้าวแล้ว ชาวบ้านแห่งนี้ยังมีอาชีพเสริมคือการการเกษตรปลูกพืชฤดูแล้งเลี้ยงสัตว์ และบางส่วนเลี้ยงกบ ขายพันธุ์กบเป็นส่วนน้อย เน้นขายตัวอ่อนของกบหรือฮวก (ลูกอ๊อด) เป็นส่วนใหญ่ โกยเงินเป็นล่ำเป็นสันเรียกกันว่า “เถ้าแก่น้อย” ในหมู่บ้าน”

คุณกมลชัย กล่าวอีกว่า จากที่เห็นเพื่อนบ้านทำนาและเลี้ยงปลา กบเสริมแล้วทำให้มีรายได้ จึงศึกษาและนำกบมาทดลองเลี้ยงจนเกิดความชำนาญ จากแต่ก่อนเลี้ยงเพียงไม่กี่ร้อยตัว ก็เพิ่มจำนวนเลี้ยงขึ้นมาเป็นหลายพันตัว จากเดิมไม่มีคนรู้จัก ก็มีลูกค้ามาซื้อกบถึงบ้าน บรรดาเพื่อนบ้านที่เลี้ยงกบต่างมีรายได้ต่อปีหลายแสนบาท บางรายตั้งเป้าทำกำไรจากกบตัวละ 1 บาท หากขายได้ปีละ 1 ล้านตัว ก็มีรายได้ 1 ล้านบาท

“เมื่อ 5 ปีก่อน เริ่มเลี้ยง และนำเงินทุนที่มีอยู่ไปซื้อพ่อพันธุ์แม่พันธุ์กบเหลืองหัวเขียว และกบพื้นบ้าน ประมาณ 20-30 ตัว พ่อพันธุ์แม่พันธุ์กบกิโลกรัมละ 50-70 บาท ตัวขนาด 2 นิ้ว 1 กิโลกรัม ได้ประมาณ 40 ตัว ลงทุนลงแรงเลี้ยงกบในที่นาตัวเอง โดยใช้ท่อปูนชีเมนต์ร่วมกับภรรยาเพียง 2 คน”

คุณกมลชัย เล่าว่า การเลี้ยงพ่อพันธุ์แม่พันธุ์กบ เพื่อผลิตตัวอ่อนหรือลูกอ๊อด มีขั้นตอนการเลี้ยงยุ่งยากกว่าเลี้ยงสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำชนิดอื่น ใจไม่สู้ เลี้ยงไม่ได้ไปไม่รอด ปัจจุบัน ตนมีกบพ่อพันธ์ จำนวน 2,000 ตัว แม่พันธุ์ 2,000 ตัวเศษ โดยกบพ่อพันธุ์แม่พันธุ์เหล่านี้ จะถูกนำมาเลี้ยงไว้ที่ท่อซีเมนต์ กว่า 30 ท่อ แต่ละท่อจะมีพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ปล่อยเลี้ยงประมาณ 50-60 ตัว ส่วนการผสมพันธุ์นั้น เริ่มจากใช้คันนาดินที่เป็นบ่อกั้นไว้ให้แล้ว นำตาข่ายไนล่อนพลาสติก ภาษาอีสานเรียก “ดาง” หรือ “ผ้าแหยง” รูถี่ มาขึงกางตาข่าย กว้าง 1.20 เมตร ความยาวแล้วแต่ขนาดคันนาเป็นมาตรฐาน ใช้ไม้ไผ่สูงขนาดเท่ากับตาข่ายค้ำยัน กั้นเพื่อขึงตาข่ายให้ตึง ป้องกันกบกระโดดหนีระยะห่าง 2 เมตร ต่อเสา และควรกั้นไว้หลายๆ บ่อเพื่อคัดแยกขนาดของกบและลูกอ๊อดออกจากกัน

“กบพันธุ์ไม่แข็งแรงเหมือนกบนาจะกระโดดเฉพาะช่วงผสมพันธุ์กันและมีฝนตก และควรเตรียมบ่อผสมพันธุ์ไว้ ตามต้องการแต่ควรเว้นระยะเนื่องจากการจำหน่ายต้องไม่ขาดช่วงหากทำพร้อมกันจะทำให้กบไข่มากทำให้ขายไม่ทัน”

วิธีการ คือ นำพ่อพันธุ์แม่พันธุ์กบ ที่คัดแยกจากท่อที่เลี้ยงไว้ 4 ท่อ และตัวเมีย 4 ท่อ รวม 8 ท่อ นำตัวผู้และตัวเมียอย่างละ 200 ตัว รวม 400 ตัว ผสมเยอะไม่ได้ กบจะกระโดดหนีใส่ตาข่ายจนบาดเจ็บปากแดง

วิธีคัดแยกกบมาผสมกัน สังเกตกบตัวผู้จะคางย่นพอง ควรให้ผสมพันธุ์กันในช่วงเย็น ถ้าฝนไม่ตกให้เปิดน้ำแทนฝนจะผสมพันธุ์กันดี พอรุ่งเช้าให้แยกตัวผู้ตัวเมียกลับท่อ ถ้าแดดร้อนจัดลูกอ๊อดจะขยายพันธุ์รวดเร็ว ถ้าไม่มีแดดต้องรอข้ามคืน ตกเย็นในวันเดียวกันจะเห็นลูกอ๊อดลอยน้ำในบ่อผสม ช่วงนี้ลูกอ๊อดจะกินคราบไข่ในบ่อผสมก่อน 2 วัน ถึงจะให้อาหารเป็นหัวอาหารเมล็ดที่ใช้เลี้ยงปลา แล้วนำไปลงบ่ออนุบาลและอีก 5 วัน ก็นำลูกออ๊ดออกจากบ่ออนุบาลไปลงที่บ่อดินที่เตรียมไว้
นอกจากนี้ ควรห้สังเกตปริมาณลูกกบว่าในบ่อมีลูกอ๊อดมากน้อยหรือไม่ หากให้อาหารเยอะไปลูกอ๊อดจะตาย แรกๆ ลูกอ๊อดอยู่ในน้ำใส ข้อควรระวังยิ่งควรปรับสภาพน้ำให้เขียวขุ่น โดยใช้น้ำหมักชีวภาพที่รดใส่แปลงพืชผักผสมกับกากน้ำตาลเทใส่บ่อเพื่อสร้างอุณหภูมิปรับน้ำให้เขียว เพื่อให้ลูกอ๊อดอำพรางตัวไม่ให้เห็นกัน ถ้าอยู่ในน้ำใสตัวใหญ่จะกินตัวเล็ก เป็นธรรมชาติของสัตว์ชนิดนี้ ระยะเวลาหลังผสมพันธุ์กันเสร็จ 25 วัน ลูกอ๊อดจะโตเต็มที่จะขายได้ ตัวใหญ่และได้น้ำหนัก ดีนับร้อยกิโล ขึ้นไป

คุณรัตนา บอกว่า สิ่งที่ต้องทำและหมั่นเอาใจใส่ คือ เมื่อลูกอ๊อดโตได้ 5 วัน ให้รีบเอาออกจากบ่อผสมพันธุ์ นำพักไว้ในบ่อดินที่เตรียมไว้ หลังคัดเกรดเสร็จก็ควรจะกระจายลงไปในบ่อที่ว่างอีก จากนั้น ต้องคัดตัวใหญ่แยกออกจากตัวเล็กที่ไม่สมบูรณ์ ไม่อย่างนั้นลูกอ๊อดกินกันเองไม่เหลือผลผลิตตามเป้า และควรให้หัวอาหารเช้าเย็นวันละ 2 กระสอบ

“การเลี้ยงกบนั้น ไม่ได้ศึกษาจากที่ใด อาศัยประสบการณ์ลองผิดลองถูกเมื่อมีปัญหาก็จะไปสอบถามคนที่เลี้ยงมาก่อน ซึ่งก็ได้รับคำแนะนำเป็นอย่างดี ปัจจุบัน กบของตัวเองที่เป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ หนึ่งตัวจะสามารถผสมเพาะได้ ถึง 10-12 ครั้ง/ตัว หลังจากนั้นก็จะนำออกมาจำหน่ายเพราะกบเรียกกันว่าโทรมมากแล้ว จากนั้นจะคัดพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ใหม่ มาทดแทน ฤดูกาลของลูกอ๊อดผลผลิตจะเริ่มออกในช่วงเดือนมีนาคม-สิงหาคม แต่จะออกเยอะในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน เนื่องจากมีอากาศเย็นและมีฝนตกลูกอ๊อดไม่ค่อยตาย ต้นฤดูที่ผสมใหม่ๆ จะทำเงินให้สูงตกกิโลกรัมละ 200-250 บาท”

คุณรัตนา บอกอีกว่า ทุกวันนี้สามารถขายได้วันละ 30-50 กิโลกรัม โดยได้ใช้วิธีเพาะพันธุ์แบบให้เป็นเว้นระยะไม่ทำครั้งเดียว เพราะถือว่าทำได้ตลอดเวลาอย่างต่อเนื่อง จะอยู่ที่วันละ 4,500-6,000 บาท ซึ่งหากหักค่าใช้จ่ายจากพวกหัวอาหารแล้วก็มีกำไรมากกว่าครึ่งของรายได้ ประมาณเกือบ 1 แสนบาท ต่อเดือน

การเลี้ยงกบหากมองดูจริงแล้วไม่ยากอย่างที่คิด ปัญหาอยู่ที่ความขยันขันแข็ง ทำแล้วเลี้ยงแล้วต้องหมั่นดูแลเอาใจใส่ ไม่ปล่อยเป็นกบ “เทวดาเลี้ยง” และคนเลี้ยงกบต้องรู้จักศึกษาอ่านหนังสือหาความรู้และสังเกตกบว่าเป็นอย่างไร และควรปรับเปลี่ยนไปตามนั้นเพราะประสบการณ์จะทำให้เราได้เรียนรู้ดีกว่าการอ่านแล้วมาลองทำ เพราะอาจทำให้เสียเวลาได้ สุดท้ายก็เสียเงิน ล้มเหลว ไม่ประสบผลสำเร็จ

ส่วนลูกฮวกหรือลูกอ๊อดนั้น ถ้ามีลูกอ๊อดธรรมชาติออกสู่ตลาด ราคาก็จะลดลงมาหน่อย แต่ก็ไม่พอความต้องการของตลาด ลูกฮวกนั้นเป็นที่นิยมรับประทานของคนอีสาน โดยสามารถทำอาหารได้หลากหลายเมนู โดยเฉพาะเมนูหมกลูกฮวก ที่เป็นเมนูยอดฮิต เรียกได้ว่าใครได้กินก็คงจะติดใจ

ผู้สนใจท่านใดอยากได้รายละเอียดหรือติดต่อสอบถามข้อมูล ได้ที่คุณรัตนา ศรีบุรมย์  ได้ทุกวัน

ขอบคุณ ข่าวบ้านเกษตร

ห้องเครื่องปราสาทสายฟ้าฟันธงแข้งไทยที่สามารถลงเล่นลีกสูงสุดเกาหลีใต้ได้มี 2 คนคือจอมทัพเพื่อนร่วมทีมและเพลย์เมกเกอร์คู่แข่งตลอดกาล โก ซุล กิ กองกลางชาวเกาหลีใต้ ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มั่นใจว่านักเตะไทยที่สามารถค้าแข้งในระดับลีกสูงสุดบ้านเกิดของเขาได้มี 2 คนคือ จักรพันธ์ แก้วพรม มิดฟิลด์เพื่อนร่วมทีม และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ เพลเมกเกอร์ร่างเล็กของเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมคู่ปรับสำคัญ

ดาวเตะเลือดโสม วัย 31 ปี เคยผ่านการเล่นกับสโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง โปฮัง สตีลเลอร์ส และ อุลซาน ฮุนได โดยคว้าแชมป์เกาหลีใต้ ลีกคัพ ได้ 2 สมัย และ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย ก่อนจะย้ายมาอยู่ อัล จาอิส ในกาตาร์ รวมถึง ปราสาทสายฟ้า ในปี 2015 จนถึงปัจจุบัน

“ที่เกาหลีใต้ เราฝึกซ้อมกันหนักมากๆ ครับ โดยเฉพาะในช่วงปรีซีซั่น เราฝึกซ้อมกันวันละ 3 เวลาเลย เพราะการแข่งขันที่นั่นสูงมาก คุณจำเป็นจะต้องแข็งแกร่งจริงๆ ถึงจะยืนระยะอยู่ได้ ในความคิดของผมนั้น นักเตะไทยที่สามารถจะไปค้าแข้งอยู่ในเคลีกได้ มี 2 คน คือ โน้ต – จักรพันธ์ แก้วพรม และเจ – ชนาธิป สรงกระสินธ์ ครับ” โก ให้สัมภาษณ์ผ่านเว็ปไซต์สโมสร www.buriramunited.com

ที่มา https://www.fourfourtwo.com/th/news/tawthp-ok-chul-ki-chii-2-aekhngaithydiipheln-ekhliik-khlaassikh

SBOBETSH

สมัครเว็บบอล การเงินและบริการดีที่สุดในโลก บริหารงานโดยเฮียตังค์
www.sbobetsh.com/tst
– สมัครสมาชิกใหม่รับโบนัส 20%
– ฝาก-ถอน 5 นาที ไม่จำกัดรอบ ถอนเงินสูงสุดวันละ 1 ล้าน
ทีเด็ดเฮียตังค์บิลล้าน 1 เดือน 20 ล้าน
https://www.facebook.com/groups/sbobet.sh/
แอดเลย!!! LINE @heartang (ใส่@ข้างหน้าด้วย)
หรือคลิก http://line.me/ti/p/@heartang

วันนี้ห้ามพลาด 19:00 ส่งเเรงใจเชียร์โต้ะเล็กU20ไทย ดวล มาเลเซีย ช่อง7สีถ่ายทอดสด ห้ามพลาดเด็ดขาด

สำหรับทัพโต๊ะเล็กไทย ได้แต่งตั้งให้ “ต้น” จิรสิน กิ้มเส้ง เป็นกัปตันทีม และ “เหม็ด” มูฮัมหมัด อุสมานมูซา เป็นรองกัปตันทีม ในการแข่งขันชิงแชมป์เอเชียครั้งนี้

โปรแกรมฟุตซอล U20 ของทีมชาติไทยชิงแชมป์เอเชีย 2017 ทั้งสองสนาม 4 สาย (เข้ารอบ8สายละ2 ทีม)

ส่วนโปรแกรมฟุตซอล U20 ทีมชาติไทย ชิงแชมป์เอเชีย 2017 สนาม บางกอกอารีน่า

16/05/2017 ไทย พบ มาเลเซีย Thailand vs Malaysia | 19.00 pm [ถ่ายทอดสดช่อง7]

17/05/2017 ไทย พบ บาห์เรน Thailand vs Bahrain | 19.00 pm [ถ่ายทอดสดช่อง7]

18/05/2017 ไทย พบ บรูไน Thailand vs Brunei | 19.00 pm [ถ่ายทอดสดช่อง7]

19/05/2017 ไทย พบ อัฟกานิสถาน Thailand vs Afghanistan |19.00 pm [ถ่ายทอดสดช่อง7]

20/05/2017 ไทย พบ อิรัก Thailand vs Iraq | 19.00 pm [ถ่ายทอดสดช่อง7]

SBOBETSH
สมัครเว็บบอล การเงินและบริการดีที่สุดในโลก บริหารงานโดยเฮียตังค์
www.sbobetsh.com/tst
– สมัครสมาชิกใหม่รับโบนัส 20%
– ฝาก-ถอน 5 นาที ไม่จำกัดรอบ ถอนเงินสูงสุดวันละ 1 ล้าน
ทีเด็ดเฮียตังค์บิลล้าน 1 เดือน 20 ล้าน
https://www.facebook.com/groups/sbobet.sh/
แอดเลย!!! LINE @heartang (ใส่@ข้างหน้าด้วย)
หรือคลิก http://line.me/ti/p/@heartang

นาทีนี้คงไม่มี่ใครไม่รู้จัก “ก้อง ห้วยไร่” เจ้าของผลงานเพลง “ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน” ที่ดังสะท้านวงการยอดวิวพุ่งทะลุ 100 ล้านวิว วันนี้เราจะพาไปดูทรัพย์สินของหนุ่มก้องกันว่าจะมีทรัพย์อะไรบ้างซึ่งเจ้าตัวเคยเผยไว้ว่าตอนนี้มีทรัพย์สินที่ดินประมาณ 100 ไร่ ที่จะมาทำเกษตรกรรมอย่างสวนมะนาวมีเงินเก็บอยู่หนึ่งก้อน

มีบ้านหลังงามที่สร้างให้กับพ่อแม่ และมีรถ BMW 1 คัน  แถมล่าสุดได้ควักเงินในกระเป๋าซื้อรถหรูอีก 2 คัน ด้วยเงินสด ประมาณ 5 ล้านบาท หนุ่มก้องเผยว่าทุกสิ่งมาจากน้ำพักน้ำแรง และตัวเองรู้จักเก็บเงินแบ่งว่าส่วนไหนใช่ส่วนไหนเก็บ

ส่วนรายได้ที่มาจากงานจ้าง ถ้าไปคนเดียวก็จะได้ประมาณ 4-5 หมื่นบาท แต่ถ้าไปเต็มวงก็ได้ประมาณเกือบแสนบาท ปัจจุบันก็มีงานละคร,งานโฆษณา,งานอีเว้นท์ทั่วไป

โดยหนุ่มก้องยังบอกต่ออีกว่า “ด้วยความที่เป็นเด็กอีสาน เราก็คุยๆกันว่า โตขึ้นจะขับบีเอ็ม จะขับมินิคูเปอร์ ก้อง ห้วยไร่ ซื้อรถแพง แต่พอเพียง เพราะผมสามารถแบ่งไว้ใช้ในสิ่งที่เหมาะสม ใช้ในสิ่งที่จำเป็น ใช้ในอนาคต และมีส่วนที่แบ่งไว้ซื้อในสิ่งที่เราอยากได้ กำไรชีวิต คือ รถ บ้านเราก็มีแล้ว สร้างเสร็จแล้ว ที่ดินก็มีแล้ว ก็ทำงานไปจนกว่าจะไม่ได้รับความนิยม จะกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม เกษตรกรเหมือนเดิม ” 

โฟกัสรองเท้า

สระว่ายน้ำกว้าง

พ่อ แม่ ลูก ครอบครัวอบอุ่น

หนุ่มก้อง

หล่อติดดินจริงๆ

ขยันด้วย

ติดดินของแท้

หล่อสุดๆไปเลย

ขอขอบคุณ : @kong_huayrai

เเละ http://www.moonoinews.com/1837/

14 พฤษภาคม 2560 สุดทึ่ง ชาวบ้านเจอจอมปลวกสร้างเป็นรูปคล้ายเศียรพญานาค ในบ้านของนายไตรภูมิ ชินบุตร อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 4 บ้านหนองอ้อ ต.สะอาด อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ชาวบ้านมุงดูจำนวนมาก หลายคนจุดธูปบูชาพญานาคตามความเชื่อ

ด้านชาวบ้านที่มาดูเสี่ยงโชคขอหวยหยดเทียนในขันน้ำมนต์ ได้เลขเด็ด 6-7-1  นอกจากนี้ยังมีพิธีพราหมณ์บวงสวงบูชาพญานาค ชาวบ้านเชื่อว่าพญานาคมาคอยดูแลชาวบ้านให้พบเจอแต่ความเป็นสิริมงคล และชาวบ้านยังจะสร้างศาลให้กับพญานาค ตามความเชื่อ และนอกจากนี้ยังมีผู้ใช้เฟซบุ๊ค ชื่อว่า Rachan Arsana ได้โพสต์ในกลุ่มหวย มีคอหวยจำนวนมากมาคอมเม้นท์ ต่างตีเป็นเลขเด็ดต่างๆนาๆ เช่น 249 , 63 ,66,33 ส่วนใครชอบตัวไหนก็ลองตามดูนะครับ เผื่อมีโชค

ประชาสัมพันธ์สำหรับ โปรแกรมการแข่งขันนัดต่อไปในศึกฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2017 สัปดาห์ที่ 15 ของฤดูกาล “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่จะเปิดสนามเอสซีจี สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี ในวันพุธที่ 17 พฤษภาคม 2560 เวลา 18.00 น.

บริษัท ไทยลีก จำกัด ซึ่งเป็นผู้จัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอล รายการโตโยต้า ไทยลีก ได้มีหนังสือชี้แจงแนวปฎิบัติการห้ามกองเชียร์ทั้งสองสโมสร เข้าชมการแข่งขันในทุกนัดที่พบกันตลอดฤดูกาล 2560 ดังต่อไปนี้

1.สโมสรทีมเหย้า ต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบ และกำกับดูแล แผนการรักษาความปลอดภัยโดยรอบสถานที่จัดการแข่งขัน ให้เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับการแข่งขันฯ อย่างเคร่งครัดตามปกติ เสมือนหนึ่งมีการแข่งขันตามปกติ

2.ทั้งสองสโมสร จะต้องดำเนินการทุกวิถีทางอย่างเต็มกำลังความสามารถในการห้ามไม่ให้กองเชียร์ของตนเองเข้าชมการแข่งขันกีฬาฟุตบอลในนัดที่ถูกลงโทษ

3.ถ้าปรากฏชัดเจนว่า มีกองเชียร์ของสโมสรใดสโมสรหนึ่ง แฝงตัวเข้าไปชมการแข่งขันหรือ มีบุคคลใด ที่เชียร์ สโมสรของตนเข้าไปชมการแข่งขันด้วย ให้เป็นหน้าที่ของสโมสรนั้น ในการเชิญตัวบุคคลนั้นออกจากสนาม โดยการประสานกับสโมสรทีมเหย้าและผู้ควบคุมการแข่งขันต่อไป

4.เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแฝงตัวของกองเชียร์อันนำมาสู่การละเมิดบทลงโทษ ฝ่ายจัดการแข่งขัน จึงเห็นควร ไม่อนุญาตให้บุคคลทั่วไป เข้าชมการแข่งขัน ยกเว้นบุคคลที่มี เอดีการ์ด ที่ออกโดย บริษัท ไทยลีก จำกัด เท่านั้น อาทิ เช่น สื่อมวลชน เจ้าหน้าที่สโมสร เจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการแข่งขัน เป็นต้น

5.หากสโมสรทั้งสอง มีความประสงค์ที่จะให้เจ้าหน้าที่ที่ไม่มีเอดีการ์ดที่ออกโดย บริษัท ไทยลีก จำกัด อยู่ในบริเวณสถานที่จัดการแข่งขัน ให้ทำหนังสือแจ้ง บริษัท ไทยลีก จำกัด เพื่อขออนุญาต ก่อนการแข่งขันอย่างน้อย 2 วัน ต่อไป

6.สโมสรทีมเหย้า ที่เป็นผู้จัดดำเนินการแข่งขัน ต้องส่งรายชื่อ พร้อมจำนวนเจ้าหน้าที่ ที่ปฎิบัติหน้าที่ดำเนินการในวันแข่งขัน

ทั้งนี้ ขอให้ทั้งสองสโมสรปฎิบัติตามระเบียบฯ และ ข้อกำหนดข้างต้น เพื่อป้องกันไม่ให้มีการลงโทษเพิ่มเติมในประเด็นดังกล่าวการซ้ำอีกต่อไป

ขอบคุณที่มาจาก Muangthong United FC.